เราจะทาครีมบำรุงหลายขั้นตอนไปทำไม ถ้าผิวก็ยังไม่ได้ดีขึ้น? เลิกทรมานผิวของเราด้วยสกินแคร์รูทีนที่ไม่จำเป็น ปัจจุบันเทรนด์ Skin Cycling กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นวิธีการดูแลผิวที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ ตามคำแนะนำของ Dr. Whitney Bowe แพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจำนวนมากมาย จะมีวิธีใช้สกินแคร์รูทีนอย่างไร? ต้องใช้ผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง? วันนี้ตอบครบทุกประเด็นแน่นอน!
Skin Cycling คืออะไร
เทรนด์การดูแลผิวที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงนี้ คือ Skin Cycling หรือ วงจรการบำรุงผิว เป็นวิธีการบำรุงผิวที่ไม่ซับซ้อน เน้นการผลัดเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในแต่ละคืน เพื่อให้ผิวได้พักผ่อนและซึมซับสารบำรุงได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้ผิวแข็งแรง ดูอ่อนเยาว์ และลดปัญหาผิวต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขั้นตอนการบำรุงผิวแบบ Skin Cycling
1. Skin Cycling คืนที่ 1 : คืนแห่งการผลัดเซลล์ผิวให้ใสกิ๊ง!
อันดับการลงสกินแคร์ ให้เริ่มต้น Skin Cycling ด้วยการผลัดเซลล์ผิวในคืนแรก ช่วยให้ผิวดูใสขึ้น เนียนนุ่มขึ้น และพร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไปได้อย่างเต็มที่
- ตอนเช้า: ลงสกินแคร์ตามปกติได้เลย โดยเริ่มจากการลง มอยส์เจอไรเซอร์ ที่คุณใช้อยู่เป็นประจำ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น จากนั้นจึงตามด้วย ครีมกันแดด เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV
- ตอนเย็น: หลังล้างหน้าสะอาด ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่มีส่วนผสมของ AHA หรือ BHA เพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่าอย่างอ่อนโยน ลดสิ่งตกค้างในรูขุมขน ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
2. Skin Cycling คืนที่ 2 : คืนแห่งการบอกลาริ้วรอย
หลังจากที่ผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไปแล้ว คืนที่สองของ Skin Cycling เราจะโฟกัสไปที่การลดเลือนริ้วรอย ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกลุ่มเรตินอยด์ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ริ้วรอยดูจางลง และผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น สำหรับมือใหม่ควรเริ่มใช้เรตินอลในปริมาณที่น้อยและค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นทีละน้อย เพื่อให้ผิวได้ปรับสภาพก่อน
- ตอนเช้า: ลงสกินเเคร์ได้ตามปกติเหมือนวันที่ 1 โดยลง มอยส์เจอไรเซอร์ ควบคู่กับทาครีมกันแดด
- ตอนเย็น: หลังทำความสะอาดผิวหน้า ให้ทาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retinol หรืออนุพันธ์วิตามินเอ ในปริมาณที่พอเหมาะทั่วใบหน้า การใช้เรตินอลในคืนที่สองของ Skin Cycling จะช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น ริ้วรอยและจุดด่างดำจางลง สำหรับผู้เริ่มต้นควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นต่ำและและทดลองใช้ในปริมาณน้อยก่อน เพื่อลดความเสี่ยงในการระคายเคือง *ไม่แนะนำให้สตรีมีครรภ์ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของอนุพันธ์วิตามินเอ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์
3. Skin Cycling คืนที่ 3 และคืนที่ 4 : สองคืนแห่งการพักฟื้นผิว
การพักผ่อนผิวเป็นสิ่งสำคัญมากหลังจากการผลัดเซลล์และใช้เรตินอล โดยคืนที่ 3 และ 4 เราจะเน้นเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก เพื่อปลอบประโลมผิวให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
- ตอนเช้า: ลงสกินเเคร์ได้ตามปกติ โดยลง มอยส์เจอไรเซอร์ ควบคู่กับทาครีมกันแดด
- ตอนเย็น: ในคืนที่ 3 และ 4 นี้ ผิวของเราต้องการการพักผ่อน เพียงแค่ล้างหน้าให้สะอาด และทามอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวแบบเต็ม ๆ โดยเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่อ่อนโยน (ไม่ผสมสารผลัดเซลล์ผิวหรือเรตินอล) เมื่อครบ 4 คืนแห่งการทำ Skincare Cycling แล้ว ก็เริ่มต้นวงจรใหม่ได้เลย โดยกลับไปเริ่มที่ขั้นตอนแรกเช่นเคย การหมุนเวียนการบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผิวของเราแข็งแรงและสมดุลมากยิ่งขึ้น
การทำ Skin Cycling เหมาะกับทุกสภาพผิวหรือไม่?
Skin Cycling เหมาะกับทุกสภาพผิวไหม? คำตอบคือ ไม่เสมอไป แม้ว่า Skin Cycling จะเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยม แต่ก็เหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกันไป สำหรับคนที่ ผิวมัน ผิวผสม หรือผิวที่มีปัญหาสิว Skin Cycling อาจเป็นตัวช่วยที่ดี เพราะการผลัดเซลล์ผิวและใช้เรตินอลจะช่วยให้ผิวสะอาด ลดการอุดตัน และควบคุมความมันได้ดีขึ้น แต่ถ้าคุณมี ผิวแห้งมาก หรือผิวแพ้ง่าย ควรปรับเปลี่ยนรูทีนการดูแลผิวแบบ Skin Cycling ให้เหมาะสมกับสภาพผิว โดยเน้นการใช้ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นสูงอย่างมอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำในผิว และลดการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้
5 เรื่องที่ควรรู้ ก่อนเริ่มทำ Skin Cycling
- ครีมกันแดดห้ามขาด: ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง แม้ในวันที่ไม่มีแดดก็ตาม เพื่อป้องกันผิวจากแสงแดดที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและรอยแดง
- เรตินอลทำให้ผิวไวต่อแสง: การใช้เรตินอลจะทำให้ผิวชั้นนอกบางลง ทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น หากโดนแสงแดดโดยตรง อาจทำให้เกิดการระคายเคือง จึงแนะนำให้ใช้ตอนกลางคืนมากกว่ากลางวัน
- สตรีตั้งครรภ์ควรเลี่ยงเรตินอล: เรตินอลมีผลต่อการแบ่งเซลล์และการเจริญเติบโตของเซลล์ ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการพัฒนาอวัยวะต่าง ๆ ของทารกในครรภ์ การได้รับเรตินอลในปริมาณที่มากเกินไป อาจไปรบกวนกระบวนการนี้ ทำให้เกิดความผิดปกติในการสร้างเนื้อเยื่อได้
- ใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่เหมาะสม: ทั้ง AHA และ BHA ล้วนเป็นกรดที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ดังนั้นการใช้ในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้ผิวบางลง ระคายเคือง และไวต่อแสงแดดมากขึ้น สำหรับผู้เริ่มต้นควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นของ AHA และ BHA ต่ำ และใช้ในปริมาณน้อย ๆ ก่อน เช่น 1-2 หยด รวมถึงเรตินอลเช่นกัน โดยทั่วไปควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นตั้งแต่ 0.25% ถึง 1% (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการใช้ในแต่ละบุคคล) ถ้าเพิ่งเริ่มใช้ควรเริ่มจากความเข้มข้นต่ำที่สุดก่อน เพื่อปรับสภาพผิว ทั้งนี้ ด้วยความที่มีส่วนผสมทั้งคู่ จึงไม่ควรใช้เรตินอลร่วมกับ AHA หรือ BHA ในวันเดียวกัน เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
- ความสม่ำเสมอ: การเปลี่ยนแปลงสกินแคร์รูทีนในการดูแลผิว จะช่วยให้ผิวมีเวลาปรับตัวและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ของการดูแลผิวจะไม่ปรากฏขึ้นทันที แต่จะค่อย ๆ เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นเมื่อทำอย่างสม่ำเสมอ
Skin Cycling เคล็ดลับปรับสูตรผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับเทรนด์ที่กำลังมาแรง!
Skin Cycling กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในวงการบำรุงผิว ไม่ใช่แค่เพราะเป็นเทรนด์ใหม่ที่น่าสนใจ แต่ยังเป็นเพราะผลลัพธ์ที่เห็นได้จริงในการปรับปรุงสภาพผิวให้ดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ การที่แบรนด์เข้าใจในแต่ละตัวผสมอย่างลึกซึ้งและนำเทรนด์นี้ไปปรับใช้กับสูตรผลิตภัณฑ์ ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่รักการดูแลผิวมากขึ้น แต่ยังตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด และเป็นโอกาสทองในการสร้างแบรนด์ให้โดดเด่นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับเทรนด์ Skin Cycling นั้นต้องการความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่หลากหลาย เพื่อให้ได้สูตรที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด Derma Innovation พร้อมเป็นผู้ช่วยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Skin Cycling ที่โดดเด่นและแตกต่าง ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เราสามารถช่วยคุณในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า การคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ และการทดสอบผลิตภัณฑ์จนได้มาตรฐาน