Last updated: 7 ส.ค. 2566 | 2851 จำนวนผู้เข้าชม |
ในปัจจุบันทุกคนหันมาใช้สกินแคร์กันเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเกือบแทบทุกหมวดหมู่ ไม่ว่าจะหมวดหมู่ทำความสะอาดผิว หมวดหมู่เผยผิวกระจ่างใส หมวดหมู่เติมความชุ่มชื้นให้ผิว และตามท้องตลาดก้มีให้เลือกซื้อหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น คลีนซิ่ง โฟม เซรั่ม ครีมบำรุง ซึ่งวันนี้เราจะมีพูดถึง “ โทนเนอร์ ”
โทนเนอร์ คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว อีกทั้งยังช่วยปรับสภาพผิว และบำรุงผิวอีกด้วย ทุกคนอาจจะสงสัยว่าแล้วในเมื่อเราใช้คลีนซิ่ง และโฟมล้างหน้าแล้ว ทำไมยังต้องใช้โทนเนอร์มีความจำเป็นแค่ไหนในการใช้โทนเนอร์ วันนี้มิสเดอร์มามีคำตอบมาให้ค่ะ
เนื่องจากสภาพแวดล้อมในปัจจุบันนี้ เราต้องเผชิญกับแสงแดด รังสี UV ปัญหาฝุ่น PM 2.5 รวมไปถึงมลภาวะทางอากาศที่แย่ลง ส่งผลให้ผิวของเราเกิดการแพ้ง่ายมากขึ้น ผิวบอบบางลง เกราะป้องกันผิวอ่อนแอลง ผิวเกิดการอุดตัน ทำให้ปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมาอย่างมากมาย ซึ่งการใช้คลีนซิ่ง และโฟมล้างหน้าอาจยังไม่สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจด ดังนั้นตัวโทนเนอร์จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาดได้
โดย “โทนเนอร์” คือ หนึ่งในผลิตภัณฑ์สกินแคร์ ที่ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าหลังล้างหน้าเสร็จ ลดโอกาสการเกิดสิวอุดตัน ขจัดสิ่งสกปรกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่น PM 2.5 มลภาวะต่างๆ และนอกจากนี้ยังปรับสมดุลสภาพผิวให้เหมาะสม โดยการปรับ pH ของผิวให้มีค่าประมาณ 5.5 ซึ่งเป็นค่าที่เหมาะสมกับสภาพผิวของใบหน้า รวมทั้งช่วยบำรุงผิว เช่น ให้ความชุ่มชื้น ให้ความกระจ่างใส ช่วยผลัดเซลล์ผิว เสริมสร้างผิวให้แข็งแรงพร้อมบำรุงในขั้นตอนต่อไป
โดยเติมน้ำให้ผิวชุ่มชื้น กักเก็บน้ำไม่ให้ระเหยออกจากผิว แก้ปัญหาผิวหน้าแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย เผยผิวอิ่มน้ำ เนียนนุ่ม น่าสัมผัส
โดยการเข้าไปปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยน ทำให้รู้สึกสบายผิว ช่วยปรับสมดุลผิวหน้า
ปรับโทนสีผิวให้กระจ่างใส ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เปล่งปลั่ง พร้อมบำรุงในขั้นถัดไป
โดยปรับสมดุลน้ำมันในผิว ขจัดน้ำมันส่วนเกินในรูขุมขนออก จึงช่วยให้รูขุมขนดูกระชับ ผิวเรียบเนียนขึ้น
ขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไป และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่ ทำให้ผิวดูเรียบเนียน เปล่งปลั่งขึ้น
ค่า pH ที่เหมาะสมจะช่วยรักษาผิวให้อ่อนนุ่ม เมื่อผิวมีค่า pH ที่เหมาะสม ก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดปัญหาผิวตามมาได้ โดย pH ที่เหมาะกับสภาพผิวของเราคือ pH 5.5 นั่นเอง
ผู้ที่มีผิวแห้งเหมาะกับเนื้อโทนเนอร์น้ำนม ที่มีความเป็นอิมัลชั่น คือมีส่วนประกอบของน้ำและน้ำมันในผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว อีกทั้งยังกักเก็บน้ำไม่ให้ระเหยออกจากผิว
ผู้ที่มีผิวมัน ผิวผสมควรเลือกโทนเนอร์ที่เป็นเนื้อน้ำ เนื้อเหลว เนื้อที่มีน้ำในส่วนประกอบค่อนข้างมาก เพื่อไม่ให้ผิวเกิดการอุดตัน
ผู้ที่มีผิวธรรมดามักจะไม่พบปัญหาผิวมันหรือผิวแห้งเกินไป ดังนั้นจึงสามารถใช้โทนเนอร์ได้ทุกสูตรขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้ว่าต้องการบำรุงเพิ่มในด้านใด
โทนเนอร์สูตรให้ความชุ่มชื้นจะช่วยปรับ pH ของผิวให้สมดุลมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเติมน้ำให้ผิว กักเก็บความชุ่มชื้น และช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง สารสกัดที่มักพบในสูตรนี้ เช่น Hyaluronic Acid, สารสกัดจากสาหร่ายทะเล หรือ สารสกัดจากชาเขียว เป็นต้น
โทนเนอร์สูตรผลัดเซลล์ผิว คือสูตรที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน อีกทั้งอาจช่วยขจัดสิ่งสกปรกในรูขุมขนและปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยน สารที่มักพบในสูตร เช่น AHA, BHA หรือ PHA เป็นต้น
โทนเนอร์สูตรรักษาสิว ลดความมัน กระชับรูขน จะช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ตกค้างในรูปขุมขน และขจัดน้ำมันส่วนเกิน เหมาะกับผู้ที่มีผิวมัน ผู้ที่พบปัญหาเกี่ยวกับสิว สารสกัดที่มักนำมาในสูตร เช่น Witch-Hazel, Tree tea oil หรือวิตามินบี 3 เป็นต้น
โทนเนอร์สูตรกระจ่างใส เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับผิวหน้าให้กระจ่างใสมากขึ้น ซึ่งสูตรนี้จะช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิวรอยดำดรอยแดง แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ สารสกัดที่ใส่ในสูตร เช่น วิตามินซี, วิตามินบี 3, หรือสารสกัดอัลฟา อาร์บูติน เป็นต้น สูตรมาตรฐานแนะนำ Everyday Beauty Egg & Peach Toner โทนเนอร์ทำความสะอาดผิว คืนใบหน้าที่เคยหมองคล้ำให้แลดูกระจ่างใส ด้วยส่วนผสมหลักจากพีช และโปรตีนไข่ขาว
โทนเนอร์สูตรรักษาสมดุลผิว จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวที่แห้งกร้าน ช่วยรักษาสมดุลการทำงานของต่อมไขมันที่ผิว เสริมสร้างผิวให้แข็งแรงแรง ปรับสมดุลให้ผิวมีความพร้อมสู่การบำรุงขั้นต่อไป
โทนเนอร์ ควรใช้หลังล้างหน้าทุกครั้ง ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งช่วงเช้า และช่วงเย็น สามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น เซรั่ม โลชั่น ครีม โดยวันนี้มิสเดอร์มาจะแนะนำวิธีใช้ เคล็ดลับ ที่ทำให้ใช้โทนเนอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ล้างมือให้สะอาดก่อนใช้โทนเนอร์
นำสำลีก่อนหรือสำลีแผ่นชุบโทนเนอร์ ที่เนื้อละเอียดนุ่ม ไม่แข็งจนเกินไป และเช็ดเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้า โดยเช็ดย้อนรูขุมขนเพื่อให้ทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก
ไม่ควรใช้สำลี ขัดหรือถูที่ใบหน้าแรง เนื่องจากโทนเนอร์มีคุณสมบัติทำความสะอาดอยู่แล้ว เพียงแค่เช็ดเบาๆก็สามารถทำผิวสะอาดได้เพียงพอ หากขัดหรือถูแรงจะทำให้ใบหน้าเกิดการอักเสบได้
หากใครไม่ถนัดใช้สำลี สามารถเทลงบนฝ่ามือ และลูบไล้ทั่วใบหน้า
ควรเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิว เช่น ผู้ที่มีผิวแห้งกร้านควรใช้สูตรชุ่มชื้น ผู้ที่มีผิวมันควรใช้สูตรลดความมัน กระชับรูขุมขน ผู้ที่มีปัญหาสิวควรใช้สูตรอ่อนโยน เป็นต้น
ควรเช็ควันหมดอายุบนฉลากก่อนใช้งาน
หลาย ๆ คน คงจะสงสัยว่าโทนเนอร์กับคลีนซิ่งต่างก็เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด แล้วสองผลิตภัณฑ์นี้แตกต่างกันตรงไหน ? ต่างกันอย่างไร ?
คลีนซิ่ง คือ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดเมคอัพ และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่เราต้องพบเจอในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่น PM 2.5 สิ่งสกปรก มลภาวะต่าง ๆ ซึ่งเราจะใช้ผลิตภัณฑ์นี้ก่อนการล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้านั่นเอง
โทนเนอร์ คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ใช้หลังล้างหน้าสะอาดแล้ว โดยนอกเหนือจากคุณสมบัติที่ช่วยทำความสะอาด โทนเนอร์ยังช่วยบำรุง ละปรับสภาพผิวให้อยู่ในช่วง pH 5.5 ซึ่งเป็นค่า pH ที่เหมาะกับสภาพผิวของใบหน้าเรา
จริง ๆ แล้ว โทนเนอร์สามารถใช้ได้กับทุกเพศ ทุกวัย เนื่องจากในปัจจุบันมีโทนเนอร์ออกมาหลากหลายสูตร เพื่อให้เข้ากับทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นสูตรให้ความชุ่มชื้นที่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้ง ผู้ที่มีอายุสูงจะค่อนข้างชอบสูตรนี้ เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น ผิวจะแห้งขึ้น สูตรชุ่มชื้นจะเข้าไปช่วยฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้ม อิ่มน้ำ
สูตรกระจ่างใสเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดความหมองคล้ำ ปรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ วัยรุ่นวัยทำงานจะค่อนข้างชอบสูตรนี้ และสูตรอื่น ๆ เช่น สูตรกระชับรูขุมขน ผลัดเซลล์ผิว ก็เป็นที่นิยมของผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสิว นอกจากนี้โทนเนอร์ยังสามารถใช้ได้กับทุกเพศ เพราะในปัจจุบันไม่มีการแบ่งแยกเพศแล้ว เพียงแค่ทำความรู้จักผิวและเลือกให้เหมาะสมก็สามารถเผยผิวได้อย่างมั่นใจ
การใช้โทนเนอร์เป็นขั้นตอนที่หลาย ๆ คนมองข้าม และคิดว่าไม่จำเป็น แต่จริง ๆ แล้วโทนเนอร์เป็นขั้นตอนที่ยากแนะนำมาก ๆ เนื่องจากในปัจจุบันเราต้องพบกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่มากขึ้น มลภาวะทางอากาศที่แย่ลง แสงแดด รังสียูวีของประเทศไทยที่ค่อนข้างรุนแรง ส่งผลให้ผิวเกิดการอุดตัน ผิวอักเสบ และหมองคล้ำ หากเราใช้เพียงตัวคลีนซิ่ง และโฟมล้างหน้า อาจทำความสะอาดได้ไม่หมดจด
ดังนั้นหากเพิ่มขั้นตอนการใช้โทนเนอร์หลังล้างหน้าเสร็จก็จะช่วยให้ผิวของเราสะอาดได้ดียิ่งขึ้น โทนเนอร์ไม่ได้ช่วยเพียงแค่เรื่องทำความสะอาด แต่ยังช่วยเตรียมผิวหน้าของเราให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนถัดไปของเราอีกด้วย ผิวสวยสุขภาพดีต้องเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการทำความสะอาดผิว
สรุปแล้วโทนเนอร์มีคุณประโยชน์มากมาย นอกจากคุณสมบัติหลักที่ช่วยทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึกแล้ว โทนเนอร์ยังช่วยบำรุงผิว ไม่ว่าจะเป็นมอบความชุ่มชื้น ปรับผิวให้กระจ่างใส ผลัดเซลล์ผิว กระชับรูขุมขน ซึ่งโทนเนอร์เป็นขั้นตอนที่หลายคนมักคิดว่าไม่จำเป็นแต่ด้วยฝุ่น มลภาวะต่าง ๆ ที่มากขึ้นในปัจจุบัน การใช้โทนเนอร์ก็ถือเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผิวได้ดี เช่น ช่วยทำความสะอาดผิวได้มากกว่าการใช้เพียงแค่คลีนซิ่ง และโฟม นอกจากนี้ยังช่วยปรับสภาพผิว และบำรุงผิว เพื่อให้ผิวหน้าพร้อมในการบำรุงขั้นถัดไป
Derma Innovation โรงงานผลิตคลีนซิ่ง (Cleansing) ได้มาตรฐาน GMP พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการรับผลิตคลีนซิ่งทำความสะอาดผิวทุกรูปแบบ ลูกค้าสามารถกำหนดความต้องการของลักษณะเนื้อสัมผัส สี กลิ่น และสารสกัดได้ เดอร์มา อินโนเวชั่น รับผลิตเจลล้างหน้า แบบครบวงจร เลือกใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรที่ทันสมัยนำเข้าจากเกาหลี ควบคุมการผลิตด้วยมาตรฐานระดับสากล ASEAN GMP, ISO 9001, ISO22716, FDA, Green Industry, HALAL
19 ธ.ค. 2567