Last updated: 22 ต.ค. 2565 | 3760 จำนวนผู้เข้าชม |
ปัจจุบันมีเทรนด์ความงาม ความสนใจใหม่ ๆ ของผู้บริโภคเกิดขึ้นมากมาย เมื่อไม่นานมานี้ผู้บริโภคได้เริ่มให้ความสนใจ และให้ความสำคัญกับสุขภาพกันมากขึ้น ทำให้เครื่องสำอางออร์แกนิคเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของผู้บริโภคที่รักสุขภาพเลือกใช้ วันนี้มิสเดอร์มาพามาไขความลับเครื่องสำอางออร์แกนิคคืออะไร มีข้อดี ข้อควรระวังอะไรบ้าง
หลายๆ คนอาจเข้าใจมาตลอดว่าเครื่องสำอางออร์แกนิคกับเครื่องสำอางจากธรรมชาติคือสิ่งเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วมีความแตกต่างที่ทุกคนอาจต้องเข้าใจใหม่เกี่ยวกับเครื่องสำอางออร์แกนิค
เครื่องสำอางออร์แกนิค หรือที่เรามักติดพูดปากกันว่าครีมออร์แกนิค (Organic Cosmetic) คือ เครื่องสำอางที่ผลิตจากส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติที่ปราศจากการปนเปื้อนของสารเคมี ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี ผู้ผลิตต้องใส่ใจและระมัดระวังเรื่องสารเคมีตั้งแต่กระบวนการปลูก เก็บผลผลิต ไปจนถึงการสกัดออกมาเพื่อนำมาทำเครื่องสำอาง
แต่ในปัจจุบันการผลิตเครื่องสําอางออร์แกนิคส่วนใหญ่อาจไม่ได้ออร์แกนิค 100% เพราะว่าสภาพแวดล้อมของโลกในปัจจุบัน การที่จะปลูกพืชให้ได้กระบวนการออร์แกนิค 100% เป็นเรื่องยาก จึงทำให้เครื่องสำอางออร์แกนิคมีการใช้สารเคมีบ้างเล็กน้อย ทำให้มีการกำหนดเกณฑ์ไว้เพื่อความเหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์ โดยแบ่งออกเป็น
100% Organic คือ กระบวนการผลิตแบบออร์แกนิค 100%
Organic คือ ออร์แกนิค 95% และ 5% เป็นสารที่อนุญาตให้สามารถใช้ได้
Made with Organic Ingredient คือ ออร์แกนิค 70% และ 30% เป็นสารที่อนุญาตให้สามารถใช้ได้
ส่วนเครื่องสำอางธรรมชาติ (Natural Cosmetic) ที่สารสกัด และส่วนประกอบต่าง ๆ สกัดมาจากธรรมชาติเช่นดียวกัน แตกต่างตรงที่กระบวนการขั้นตอนตั้งแต่การปลูก เก็บเกี่ยว สกัด อาจจะไม่ได้ปราศจากสารเคมี 100%
แม้ว่าเครื่องสําอางออร์แกนิคจะมีกระบวนการที่ต้องปราศจากเคมีทุกขั้นตอน หรืออาจมีการเจือปนสารเคมีได้บ้างเพื่อทำละลายสารบางชนิด อย่างไรก็ตามเครื่องสำอางออร์แกนิคยังต้องได้รับการตรวจสอบมาตรฐานก่อนผ่านไปถึงมือผู้บริโภค เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัยจากสารเคมีไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง
โดยแต่ละประเทศมีมาตรฐาน และหน่วยงานในการตรวจสอบเครื่องสำอางออร์แกนิคที่แตกต่างกันออกไป
COSMOS และ NATRUE มาตรฐานร่วมยุโรป ทั้งสององค์กรเริ่มก่อตั้งในปี 2007 และ 2008 ตามลำดับ โดยเป็นที่ยอมรับในหลายประเทศของยุโรป รวมถึงฝั่งออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ โดยผู้บริโภคสามารถนำชื่อผลิตภัณฑ์ไปค้นหาเพื่อตรวจสอบมาตรฐานได้ตามลิงก์ด้านล่างต่อไปนี้
เช็คผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองจาก NATRUE
http://www.natrue.org/information-for/consumers/products/
ECOCERT มาตรฐานจากฝรั่งเศส เป็นองค์กรตรวจสอบเครื่องสำอางออร์แกนิก ที่มีชื่อเสียงและมาตรฐานเข้มงวดที่สุด โดยจะตรวจสอบตั้งแต่กระบวนการเพาะปลูก ผลิต และบรรจุ ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบรายชื่อเครื่องสำอางออร์แกนิค ตามมาตรฐาน ECOCERT ได้ที่
https://www.ecocert.com/en/certification
USDA Organic (U.S. Department of Agriculture) มาตรฐานจากสหรัฐอเมริกา มีมาตรฐานในการรับรองอาหาร ผลิตภัณฑ์ และเครื่องสำอางออร์แกนิคที่ 100% Organic และ 95% Organic หรือสามารถเข้าไปเช็คมาตรฐานผลิตภัณฑ์ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง
https://organic.ams.usda.gov/Integrity/
นอกจากนี้ยังมีมาตรฐานที่ตรวจสอบ และรับรองผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอางออร์แกนิคจากที่อื่น ๆ อีก เช่น BDIH มาตรฐานจากเยอรมนี, JOCA สมาคมเครื่องสําอางออร์แกนิคญี่ปุ่น ซึ่งแต่ละมาตรฐานจะมีข้อกำหนดและตัวชี้วัดที่แตกต่างกันไป แต่ถ้าหากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางออร์แกนิค ได้รับการรับรองจากหน่วยงานใดก็ตาม จะถือว่าเครื่องสำอางออร์แกนิคนั้นปลอดภัยตามมาตรฐานแน่นอน
เทรนด์เครื่องสำอางออร์แกนิคกำลังเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามองสำหรับคนที่รักสุขภาพ และใครอีกหลาย ๆ คน ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่ามีข้อดีอย่างไรบ้าง วันนี้มิสเดอร์มาได้สรุปข้อดีสั้น ๆ เข้าใจง่ายไว้สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องสำอางออร์แกนิคไว้ใช้ในอนาคต
ข้อดีของเครื่องสำอางออร์แกนิค ได้แก่
ปลอดภัยต่อสุขภาพผู้บริโภค ไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง เพราะปราศจากสารเคมี หรือมีสารเคมีเจือปนน้อย
ไม่มีสารตกค้างภายในร่างกาย
เกิดการระคายเคืองผิวน้อยกว่า เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่มีผิวแพ้ง่าย หรือผู้บริโภคที่มีสภาพผิวอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้สภาพแวดล้อมดีขึ้น
การเลือกซื้อเครื่องสำอางออร์แกนิค ครีมออร์แกนิคก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะในประเทศไทยเรายังไม่มีมาตรฐานรับรองผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคอย่างเป็นทางการ ทำให้เราควรระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคมากขึ้น ทางเราได้รวบรวมข้อควรระวังในการซื้อเครื่องสำอางออร์แกนิคไว้ ดังนี้
ตรวจสอบมาตรฐาน ความน่าเชื่อถือก่อนซื้อ ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
ต้องมีเครื่องหมายการรับรองมาตรฐาน แต่ในไทยยังไม่มีองค์กรรับรองมาตรฐานออร์แกนิคอย่างเป็นทางการ จึงควรสังเกตผลิตภัณฑ์ที่ได้รับตรารับจากองค์กรของประเทศต่าง ๆ ที่มีความน่าเชื่อถือแทน
อ่านฉลาก พิจารณาส่วนผสมให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะบางผลิตภัณฑ์เคลมตัวเองว่าเป็นเครื่องสำอางออร์แกนิค แต่อาจมีส่วนผสมบางอย่างต้องห้าม เช่น SLS, Paraben, Mineral Oil, Artificial Color / Colorants, Formaldehyde, Harsh Chemical เป็นต้น
ราคาไม่แรงจนเกินไป
ผลิตภัณฑ์จากออร์แกนิคที่ผลิตภายใต้โรงงานผลิตเครื่องสำอาง Derma Innovation เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้สำหรับผู้ที่สนใจในการสร้างแบรนด์จากธรรมชาติ
Vegan Facial Treatment Essence เอสเซนส์บำรุงผิวสารสกัดอาหารผิวจากธรรมชาตินานาชนิด เติมน้ำให้ผิว รู้สึกสดชื่น ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
Green Tea Organic Treatment Essence เอสเซนส์บำรุงผิวหน้าสูตรเข้มข้น คุณค่าสารสกัดจากใบชาเขียว พร้อมอาหารผิวจากพืชผักนานาชนิด
Gentle & Mild Organic Facial Cleansing ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสูตรอ่อนโยน เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ด้วย pH 5.5 (pH balance) ทำความสะอาดผิวพร้อมบำรุงผิวในหนึ่งเดียว
Organic Wild Olive Revitalizing Cream ครีมบำรุงผิวหน้า คุณค่าของสารสกัดมะกอกป่าออร์แกนิคและสารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิดมาเพื่อดูแลปัญหาผิว
เครื่องสำอางออร์แกนิคเป็นเครื่องสำอางที่มีกระบวนการปลูกวัตถุดิบ ไปจนถึงการผลิตปราศจากสารเคมี 100% แต่ในปัจจุบันการผลิตโดยปราศจากสารเคมีอาจทำได้ยาก จึงได้มีการแบ่งมาตรฐานออร์แกนิคออกเป็นระดับต่าง ๆ เช่น 100% Organic, Organic และ Made with Organic Ingredient นอกจากนั้นยังมีองค์กรที่คอยตรวจสอบมาตรฐานของผลิตภัณฑ์เหล่านี้อยู่ด้วย
การเลือกซื้อเครื่องสำอางออร์แกนิคควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าเชื่อถือ นอกจากนั้นยังต้องดูตรารับรอง และส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะปลอดภัย ยังคงมีสุขภาพดีจากการใช้ครีมออร์แกนิค และยังเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยลดมลภาวะให้กับโลกใบนี้อีกด้วยค่ะ
19 ธ.ค. 2567