เมลาโทนินในสกินแคร์ ใช้แล้วไม่ง่วง

Last updated: 5 ธ.ค. 2567  |  76 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ผู้หญิงทาเซรั่ม

เมลาโทนินในสกินแคร์ ใช้แล้วไม่ง่วง


          เวลาเราเห็นคนรู้จักที่หน้าดูโทรมเหนื่อยล้า ถุงตาใหญ่ ขอบตาดำแพนด้า ผิวหมองไม่สดใส เมื่อลองย้อนมองทั้งตัวเราเองและผู้อื่น ปฏิเสธไม่ได้ว่าบ่อยครั้งที่มักตั้งคำถามเชื่อมโยงไปถึงการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ด้วยยุคปัจจุบันการนอนหลับอย่างมีคุณภาพเป็นไปได้ยาก ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยความเครียดสะสม ทำงานหนัก หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป อาหารเสริมที่มีเมลาโทนินเป็นส่วนผสมเพื่อการนอนที่ดีขึ้นจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คนหันมาพึ่งพา เนื่องด้วย เมลาโทนิน (Melatonin) เป็นสารฮอร์โมนที่ร่างกายสามารถผลิตได้เองตามธรรมชาติจากต่อมไร้ท่อไพเนียลขนาดเล็กเท่าเม็ดถั่วซึ่งอยู่บริเวณกลางสมอง เมลาโทนินจะถูกหลั่งออกมาในช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน และลำเลียงไปตามกระแสเลือด จนเกิดอาการง่วงนอน เป็นสัญญาณให้ร่างกายว่าถึงเวลานอนหลับพักผ่อนแล้ว ตามนาฬิกาชีวิต

          ในบทความนี้ มิสเดอร์มาจะพาผู้อ่านได้หยิบยกแง่มุมการนำสารเมลาโทนินมาประยุกต์ใช้ประโยชน์ในวงการสกินแคร์ แน่นอนว่าไม่ได้ทำให้เกิดอาการง่วงแต่อย่างใดตามที่ใครหลายคนเข้าใจ งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้กล่าวว่านอกเหนือจากฮอร์โมนเมลาโทนินถูกหลั่งผ่านต่อมไร้ท่อไพเนียลแล้ว พบว่าผิวหนัง (Skin) มีกระบวนการโดยตรงที่เกี่ยวข้องกับสารเมลาโทนินทั้งในเชิงสังเคราะห์และย่อยสลายทางชีวภาพ เริ่มต้นจากสารตั้งต้นกรดอะมิโน “ทริปโตเฟน”

Tryptophan   5-OH-Trytophan   เซโรโทนิน (Serotonin)  N-acetylserotonin   Melatonin     ตามลำดับ

          การทำงานของสารเมลาโทนินถูกขับเคลื่อนผ่าน 2 กลุ่มตัวรับสัญญาณ (receptor) ได้แก่ บริเวณเยื่อหุ้มเซลล์ (membrane receptor: MT1 receptor และ MT2 receptor) และบริเวณนิวเคลียสภายในเซลล์ (nuclear receptor: RORα1, RORα2, RORα3 และ RORα4) พบได้ในต่อมรากผม เคราติโนไซต์ ผิวหนัง เมลาโนไซต์ ไฟโบรบลาสต์ ต่อมเหงื่อ เซลล์วงรอบในของรากผม และหลอดเลือดในชั้นผิวหนัง เป็นต้น อีกทั้งสารเมลาโทนินยังสามารถทำงานโดยอิสระจากกลุ่มตัวรับสัญญาณดังกล่าวได้เช่นกัน

ประโยชน์เมลาโทนินในสกินแคร์ที่น่าสนใจ

สารต้านอนุมูลอิสระทรงพลัง

- กลไกทางตรง (Direct Effect) : ด้วยโครงสร้างเมลาโทนินสามารถเข้ากำจัดอนุมูลอิสระได้หลากหลายกลุ่ม เช่น hydrogen peroxide (H2O2), hydroxyl radical (OH•), singlet oxygen (1O2), superoxide anion (•O2-), peroxynitrite anion (ONOO-) และ peroxyl radical (LOO•) เป็นต้น เรียกได้ว่ามีคุณสมบัติเป็น “broad antioxidant/ radical scavenger”

- กลไกทางอ้อม (Indirect Effect) : เพิ่มกิจกรรมการทำงาน และลึกลงไปถึงการกระตุ้นการถอดรหัสพันธุกรรมในระดับ mRNA ของเอนไซม์ที่มีประสิทธิภาพเป็นสารต้านอนุมูลอิสระให้มากขึ้น เช่น manganese superoxide dismutase (Mn-SOD), copper-zinc superoxide dismutase (Cu/Zn-SOD), GPx และ gamma-glutamylcysteine synthetase (GCS) เป็นต้น โดยกระตุ้นผ่าน membrane/ nuclear receptor

เมลาโทนินเมทาบอไลต์ สารต้านอนุมูลอิสระต่อเนื่อง

เมื่อผิวหนังเจอกับรังสีแสงแดด จะกระตุ้นให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระเพิ่มสูงขึ้น เมลาโทนินซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยต่อต้านปริมาณอนุมูลอิสระเพื่อรักษาให้อยู่ระดับสมดุล หลังจากนั้นเมลาโทนินจะสลายเปลี่ยนเป็นเมลาโทนินเมทาบอไลต์ (melatonin metabolites) เช่น 2-OH-Mel และ 4-OH-Mel และนำไปสู่การเพิ่มปริมาณสาร AFMK และ AMK ในเวลาถัดมา ตามลำดับ ซึ่งเหล่าสารเมลาโทนินเมทาบอไลต์ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นดังกล่าวยังคงให้ประโยชน์ต่อเนื่องจากเมลาโทนินเพราะมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระเช่นเดียวกัน ช่วยลดการเสื่อมสภาพของไขมัน โปรตีน ไมโทคอนเดรีย หรือ DNA ในชั้นผิว แสดงในรูปภาพด้านล่าง นอกจากนี้ AFMK ยังมีความโดดเด่นในประสิทธิภาพต้านการอักเสบ


ลดความเสียหายของผิวจากรังสีแสงแดด

เมลาโทนิน สามารถแสดงประสิทธิภาพป้องกันความเสียหายจากแสงแดดได้ดี หากในชั้นผิวมีเมลาโทนินพร้อมทำหน้าที่ อ้างอิงงานวิจัย พบว่าเซลล์ไฟโบรบลาสต์ตัวแทนเซลล์ในชั้นผิวหนัง เมื่อบ่มเพาะในสารละลายที่มีสารเมลาโทนิน หลังจากนั้นนำไปฉายรังสีแสงแดดจำลอง อัตราเซลล์ไฟโบรบลาสต์ที่มีชีวิตเพิ่มสูงขึ้น จาก 56% เป็น 92.50% โดยการเสื่อมสภาพไขมัน (lipid peroxidation) และปริมาณเซลล์ตายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งเซลล์เคราติโนไซต์ให้ผลทดลองสอดคล้องในแนวทางเดียวกัน กล่าวคือ ลดปริมาณการตายของเซลล์เคราติโนไซต์ โดยยับยั้งกระบวนการตายของเซลล์แบบ Apoptosis รวมถึงช่วยลดการแสดงออกของเอนไซม์ MMP-1, MMP-3, MMP-10 ที่เกี่ยวข้องการสลายโปรตีนคอลลาเจน

นอกจากนี้ในงานศึกษาทดลองการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบแยกใช้กลางวันและกลางคืนที่มีส่วนผสมเมลาโทนินกับกลุ่มอาสาสมัครผู้หญิง อายุเฉลี่ย 55 ปี ซึ่งมีริ้วรอยในระดับปานกลางไปจนถึงสูง จำนวน 22 คน เป็นระยะเวลา 3 เดือน พบว่ารอยตีนกา ความขรุขระของพื้นผิว และความแห้งกร้านลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะเดียวกันเพิ่มความสามารถในการคงรูปของผิวหนังต่อแรงดึง เริ่มสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงภาพรวมของผิวหนังที่ดูดีขึ้นหลังจากใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 1 เดือน

โดยสรุปประโยชน์คุณสมบัติของเมลาโทนิน

  • สารต้านอนุมูลอิสระ
  • กระตุ้นการทำงานและสังเคราะห์ของเอนไซม์สารต้านอนุมูลอิสระ
  • สารเมลาโทนินเมทาบอไลต์ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
  • ปกป้องและลดความเสียหายผิวเสื่อมสภาพจากปัจจัยแสงแดด
  • สารต้านการอักเสบ
  • ลดการทำลายคอลลาเจน

สารเมลาโทนินไม่ได้ทำให้ง่วง แต่มีประสิทธิภาพโดนเด่นที่เล่ามาเรียกว่าได้ชวนว้าวจนน่าหาสินค้ามาทดลองบ้างแล้ว ผู้อ่านท่านไหนอ่านมาถึงตรงนี้ อยากทดลองประสิทธิภาพสารเมลาโทนิน มิสเดอร์มาขอแนะนำ MMS : MELATONIN ADVANCED RESTORING SERUM สูตรเมลาโทนินไม่ได้ช่วยให้ง่วงแต่ถ้าบำรุงต่อเนื่องรับรองว่าผิวดูอิ่มสวยสุขภาพดี เสมือนได้นอนหลับพักผ่อนมาอย่างเพียงพอแน่นอน พร้อมผสานสารบำรุงอัดแน่นอย่าง Chrono Chardy สารสกัดองุ่นสายพันธุ์ชาร์ดอนเนย์ช่วยกระตุ้นยีนส์กลางวัน-กลางคืนเสริมการทำงานได้เป็นปกติ บำรุงเกราะปราการผิวแข็งแรงเพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น อีกทั้ง Elfamoist AC ที่มีในสูตรจัดเป็น Super Humectant ช่วยดูแลผิวให้อิ่มน้ำยาวนานถึง 30 ชั่วโมง แนะนำให้ลองเลย แล้วเจอมิสเดอร์มาในบทความถัดไปนะคะ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้