กลิ่นน้ำหอมกับความหอม ที่เข้ากับทุกยุคทุกสมัย

Last updated: 12 เม.ย 2567  |  1744 จำนวนผู้เข้าชม  | 

กลิ่นน้ำหอมกับความหอม ที่เข้ากับทุกยุคทุกสมัย

          “น้ำหอมกับผู้หญิงเป็นของคู่กัน” หลายๆ คนต้องได้ยินประโยคนี้ เนื่องด้วยกลิ่นที่น่าดึงดูด แล้วน้ำหอมมีที่มาอย่างไร ? วันนี้มิสเดอร์มาจะมาเล่าถึงศาสตร์ของน้ำหอม ทั้งความเป็นมา ความหมาย ประเภทกลิ่นของน้ำหอม และประเภทน้ำหอม

          มนุษย์สร้างสรรค์สิ่งของเครื่องใช้ที่แสดงถึงการมีสุนทรียภาพด้านต่างๆ เช่น การประดิษฐ์เครื่องประดับ เครื่องมือเครื่องใช้ อันแสดงให้เห็นถึงการตกแต่งร่างกายให้มีความสวยงามมาแต่โบราณ โดยน้ำหอมมีความเป็นมาดังนี้

  ก่อนประวัติศาสตร์ ได้มีการนำสมุนไพรมาใช้ในการหมักอาหาร ทำให้เห็นถึงการเข้าใจกลิ่น เข้าใจถึงความหอม

  ยุคอียิปต์โบราณ (Ancient Egypt) ได้มีการใช้น้ำหอม ในการบูชาเทพเจ้า และถวายเป็นของอุทิศในโลกหลังความตายในสุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมน สมัยราชวงศ์อาณาจักรใหม่

  ยุคกรีกโรมัน (Greek-Roman) ได้มีการนำสมุนไพรมาผสมผสาน โดยการใช้หม้อดิน เพื่อใช้เป็นยารักษาโรค

  ยุคเรเนสซองส์ (Renaissance) มีการกลั่นน้ำหอม โดยใช้หลอดกลั่นที่แบ่งหลายชั้นเพื่อให้ได้ของเหลวที่มีจุดเดือดที่แตกต่างกันถูกแยกออกมาได้ และเกิดการผลิตน้ำหอมตัวแรกขึ้นมา “Hungary Water” น้ำหอมจากจากดอกุหลาบ

  ยุคโมเดิร์น น้ำหอมได้ผสานเข้ากับแฟชั่น และเกิดการผลิตแบบอุตสาหกรรม ซึ่งมีการผลิตน้ำหอมออกมา มีกลิ่นที่ให้ความรู้สึกสมัยใหม่มากขึ้น มีการสังเคราะห์กลิ่นออกมาอย่างหลากหลาย ทำให้เกิดแบรนด์น้ำหอมขึ้นมานั่นเอง

น้ำหอมทุกชิ้น แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ Top Note, Middle Note และ Base Note รังสรรค์ออกมาให้ได้กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ มีความพิเศษเฉพาะตัวแตกต่างกันออกไป

Top Note : กลิ่นแรกที่ได้จากน้ำหอมทันที ให้ความรู้สึกแรกของกลิ่นน้ำหอมนั้น เสมือนกับ First Impression

Middle Note : หัวใจหลักของน้ำหอม เพิ่มความราบรื่นและมอบความเป็นเอกลักษณ์ มอบความ Unique ให้กับคุณ

Base Note : ให้ความหอมยาวนาน กลิ่นระเหยช้า มีความลุ่มลึก ให้กลิ่นหอมติดผิวไปทั้งวัน

นอกจากนี้การใส่เปอร์เซ็นต์น้ำหอมลงในผลิตภัณฑ์นั้นแตกต่างกันออกไป ประเภทของน้ำหอมแบ่งออก ดังนี้

  Parfum จะมีหัวน้ำหอมผสมอยู่ 20 - 30% กลิ่นอยู่นาน 6 - 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว

  EAU DE Parfum (EDP) มีหัวน้ำหอมผสมอยู่ 15 – 20% กลิ่นอยู่นาน 4 - 5 ชั่วโมง

  WAU DE TOILETTE (EDT) มีหัวน้ำหอมผสมอยู่ 5 - 15% กลิ่นอยู่นาน 2 - 3 ชั่วโมง

  EAU DE COLOGNE (EDC) มีหัวน้ำหอมผสมอยู่ 2 - 4% กลิ่นอยู่นาน 2 ชั่วโมง

  EAU FRAICNE มีหัวน้ำหอมผสมอยู่ 1 - 3% กลิ่นอยู่นาน 2 ชั่วโมง

น้ำหอมอาจไม่ใช้ผลิตภัณฑ์หลักในการดูแลผิว แต่ผลิตภัณฑ์น้ำหอมได้เชื่อมเข้ากับทุกยุคสมัย และมีการใช้มาจนถึงปัจจุบัน ให้ความหอมนำทางคุณสู่โลกแห่งความสุนทรีย์และความเพลิดเพลิน “ความงามของธรรมชาติที่ผสานเข้ากับความรื่นรมย์มนุษย์”

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้