งานนี้ต้องไป ถ้าอยากลงทุนในธุรกิจความงาม

งานนี้ต้องไป

ถ้าอยากลงทุนใน "ธุรกิจความงาม"

              ปัจจุบันในเมืองไทยมีงานแฟร์จัดขึ้นมากมาย และหลากหลายมากๆ ค่ะ ซึ่งปกติเราก็จะเลือกเดินตามความสนใจของเรา อย่างมิสเดอร์มา ก็ชอบมากที่จะไปเดินงานสัปดาห์หนังสือ หรือถ้าช่วงไหนอยากซื้อรถเราก็จะเดินไปหาโปรโมชั่นดีๆ กันที่งาน Motor Show ถูกต้องไหมคะ

              แต่ที่จะชวนไปเดินกันวันนี้บอกเลยค่ะว่าไม่ใช่งานแฟร์ธรรมดาๆ แต่เป็นงานแฟร์สำหรับผู้ที่สนใจจะลงทุนเพื่อเป็นเจ้าของแบรนด์ในธุรกิจเครื่องสำอาง ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จากแต่ก่อนที่มีแต่เหล่าดารา เซเลป ที่จะลงทุนผลิตและขาย แต่ปัจจุบันความนิยมในการลงทุนในช่องทางนี้เริ่มแผ่ขยายออกไปยังผู้ลงทุนจากแหล่งอื่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหตุผลหลักๆก็มาจาก

• ใช้เงินลงทุนน้อยกว่า เมื่อเทียบกับธุรกิจประเภทอื่น เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
• ความเสี่ยงต่ำ เมื่อเทียบการลงทุนผลิตแบรนด์เป็นของตัวเอง กับการลงทุนประเภทการเล่นหุ้น หรือการเก็งกำไรประเภทอื่นก็ต้องบอกว่าการสร้างแบรนด์ของตัวเองความเสี่ยงต่ำมากเพราะเราสามารถควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ได้เอง และปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกก็ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับการลงทุนประเภทที่กล่าวมาแล้วข้างต้นค่ะ
• ตลาดโตขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2018 ที่ผ่านมาตลาดเครื่องสำอางโตขึ้นกว่า 7% และเป็นอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่องยาวนานมาถึง 5 ปีติดต่อกัน (นับตั้งแต่ปี 2013) ชนิดที่สปีดดีไม่มีตก โดยในตัวเลขการเติบโตนี้เป็นสินค้าประเภท "สกินแคร์" ที่เป็นแชมป์การเติบโตในอัตราที่สูงสุด และถ้าเจาะให้ลึกลงไปอีก ก็จะรู้ว่าสกินแคร์สำหรับดูแล "ผิวหน้า" คือสินค้าที่ได้รับความนิยมจนโตชนะผลิตภัณฑ์อื่นๆ
• คนหันมาดูแลสุขภาพภายนอกกันมากขึ้น จากกระแสสุขภาพที่ค่อยๆ ขยายตัวออกไปเรื่อยๆ เหมือนคลื่นน้ำทำให้คนเริ่มหันมาดูแลสุขภาพจากภายในสู่ภายนอกกันมากขึ้นเรื่อยๆ
• สังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จากปัจจัยนี้ทำให้ผู้หญิงที่ก้าวเข้าสู่วัยกลางคนหันมาดูแลตัวเองเพื่อให้ดูสาวยาวนานขึ้น ผลิตภัณฑ์ประเภท Anti-Aging จึงขายดีเป็นเทน้ำ เทท่ากันเลยค่ะ
• ช่องทางการซื้อ-ขายออนไลน์ง่ายขึ้น ต้องยอมรับว่าพัฒนาการของเทคโนโลยี Mobile Banking มีส่วนสำคัญมากๆ ในการเติบโตของตลาดนี้ เพราะสมัยก่อนการจะซื้อเครื่องสำอางต้องเดินทางไปที่เคาน์เตอร์ เพื่อทดลอง และเลือกซื้อ แต่ปัจจุบันลูกค้าเพียงแค่สั่งเทสเตอร์มาทดลองที่บ้าน แล้วก็สั่งซื้อออนไลน์ได้ทันที ชนิดที่ไม่ต้องเอาตัวเองออกไปโดนแดดเลยด้วยซ้ำ เมื่อการซื้อมันง่ายก็ส่งผลดีไปเต็มๆ กับบรรดาแม่ค้าออนไลน์ ทั้งตัวแทน และที่มีแบรนด์เป็นของตัวเอง
• ฟ้ากลับมาใส หลังเจอพายุ จากข่าวครีมเถื่อนเมื่อปี 2018 จนทำให้ตลาดเครื่องสำอางที่ไม่ใช่เคาน์เตอร์แบรนด์ซบเซาไปพักใหญ่ แต่ก็กลายเป็นผลดีเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากเหตุการณ์นี้ก็เปรียบเสมือนฟิลเตอร์ที่กรองเอาโรงงานเถื่อนออกไป เหลือไว้แต่โรงงานที่มีมาตรฐานตัวจริงเท่านั้น ทำให้ผู้ที่สนใจจะผลิตครีมเป็นของตัวเอง คงไม่มีโอกาสไหนเหมาะเท่านี้อีกแล้วค่ะ

และงานที่มิสเดอร์มาขอแนะนำ สำหรับผู้ที่สนใจอยากมีแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเองมีดังนี้ค่ะ

งานแสดงสินค้าและสัมมนาด้านความงามระดับ Asean ที่มีผู้แสดงงานมาจากทั่วทั้งภูมิภาค โดยจะจัดขึ้นช่วงประมาณเดือนพฤษภาคมของทุกปี โดยปีนี้จัดขึ้นวันที่ 2-4 พฤษภาคม 2562 ณ ไบเทค บางนา

งานแสดงสินค้าความงามที่มีผู้ร่วมแสดงสินค้าตั้งแต่ต้นกระบวนการผลิต จนถึงสินค้า Finished Product โดยจะจัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี โดยปีนี้จะจัดขึ้นวันที่ 19-21 กันยายน 2562 ณ IMPACT EXHIBITION & CONVENTION CENTER

งานที่รวบรวมทุกปัจจัยด้านการผลิตที่สำคัญกับการก้าวทันพัฒนาการด้านการผลิตเครื่องสำอาง ซึ่งจะจัดขึ้นช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี โดยในปีนี้จะจัดขึ้นวันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2562 ณ ไบเทค บางนา

          โดยทุกงานที่กล่าวมาข้างต้นท่านสามารถไปพบกับ เดอร์มา อินโนเวชั่น โรงงานมาตรฐานการผลิตระดับส่งออก ASEAN GMP, ISO9001, ISO22716 ได้ทุกงานเลยนะคะ โดยเราจะขนเอาบรรดา INNOVATIVE PRODUCT ที่แตกต่างไม่ซ้ำใคร และคิดค้นมาจากนักวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางของเราเองไปจัดแสดงเพื่อให้ท่านได้ผลิตขาย

             และที่สำคัญทุกงานที่กล่าวมานี้ เดอร์มา อินโนเวชั่น ได้เตรียมสิทธิประโยชน์ดีๆ สำหรับผู้ที่สั่งผลิตในงานเท่านั้น เพื่อให้ท่านได้ประโยชน์สูงสุดในการสร้างแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเองค่ะ

             แต่ถ้าหากท่านไหนใจร้อนไม่อยากรอให้ถึงวันงาน ก็สามารถติดต่อเพื่อรับข้อเสนอล่าสุดจาก เดอร์มา อินโนเวชั่น ได้ทันทีเลยนะคะ 

คลิกดูมาตรฐานของเดอร์มา อินโนเวชั่น 

www.derma-innovation.com/our-standard

 * ข้อมูลจาก Marketeer