Last updated: 2 ต.ค. 2566 | 1693 จำนวนผู้เข้าชม |
เวลาได้ยินคำว่าสารต้านอนุมูลอิสระ สารแอนติออกซิแดนท์ สารต้านออกซิเดชัน สารกำจัดอนุมูลอิสระ หรือ สารอนุมูลอิสระ เป็นต้น สิ่งที่เกิดขึ้นในความคิดคนทั่วไปคือมันน่าจะเกี่ยวข้องกับริ้วรอย ผิวแก่ก่อนวัย ผิวเสื่อมสภาพ หรือผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางประเภท anti-aging อย่างตัวมิสเดอร์มาเองขอสารภาพเลยค่ะว่าก่อนจะเข้าวงการเครื่องสำอาง ความเข้าใจของคำว่าอนุมูลอิสระคือสารบางอย่างที่ต้องดีกับร่างกายของเราแน่นอน เพราะมีคำว่าอิสระ ตีความไปเองตามภาษา และมิสเดอร์มาก็เชื่อว่าใครอีกหลายคนก็อาจจะเข้าใจในแบบเดียวกัน หรืออาจจะไม่ได้ใส่ใจมากหนัก แต่ในเมื่อชีวิตประจำวันเรามีคำนี้เข้ามาให้เราพบเห็นได้ยินบ่อยครั้งมารู้จักเอาไว้ก็ไม่เสียหายค่ะ
ระดับความเข้าใจที่คนทั่วไปส่วนใหญ่รู้จักว่าเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิต คือ เซลล์ ที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่แท้จริงแล้วหน่วยที่ย่อยลงไปกว่านั้นแล้วรวมตัวประกอบกลายเป็นเซลล์ คือ อะตอม รู้จักกันในคำอธิบายว่าหน่วยพื้นฐานของสสาร มีกลุ่มอิเล็กตรอนซึ่งจัดเป็นอนุภาคมูลฐานเป็นองค์ประกอบเคลื่อนที่ล้อมรอบอยู่อีกที
อนุมูลอิสระ (free radicals) คือ โมเลกุลหรืออะตอมที่สูญเสียอิเล็กตรอนทำให้พลังงานในตัวเองไม่เสถียรภาพ จึงเกิดการเหนี่ยวนำแย่งชิงอิเล็กตรอนจากอะตอมหรือโมเลกุลอื่น ๆ เพื่อให้ตัวเองกลับมาเสถียร ส่งผลให้โครงสร้างโมเลกุลหรืออะตอมอื่น ๆ เปลี่ยนแปลงผิดเพี้ยนไปเป็นทอด ๆ คล้ายปฏิกิริยาลูกโซ่ อนุมูลอิสระสามารถเกิดได้จากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกร่างกาย ดังนี้
อนุมูลอิสระภายในร่างกาย ส่วนใหญ่มาจากกระบวนการเผาผลาญในเซลล์เพื่อสร้างพลังงาน จากออร์แกเนลในเซลล์ชื่อว่า ไมโตคอนเดรีย (mitochondria) เพราะฉะนั้นอาหารที่เรารับประทานเข้าไปเกินจุดความต้องการ ร่างกายจะเผาผลาญและปล่อยสารอนุมูลอิสระมากขึ้น
อนุมูลอิสระภายนอกร่างกาย เกิดจากการกระคุ้นทางผิวหนังที่ได้รับการสัมผัสจากรังสีอัลตราไวโอเลต ความร้อน มลภาวะ ฝุ่นควัน การสูบบุหรี่ การติดเชื้อจุลินทรีย์ รวมถึงสภาวะความเครียดทั้งทางกาย เช่น การออกกำลังกายอย่างหนัก นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ รับประทานอาหารไม่เป็นประโยชน์ และทางใจอย่างความรู้สึกเครียด เป็นต้น
โดยปกติ ร่างกายจะสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) เพื่อต่อสู้หรือกำจัดความเป็นพิษของสารอนุมูลอิสระซึ่งเป็นไปตามกลไกธรรมชาติเพื่อให้กลุ่มสองสารนี้อยู่ในสภาวะสมดุล แต่หากเมื่อไรก็ตามที่ร่างกายของเรานั้นมีอนุมูลอิสระมากจนเกินกว่าความสามารถของสารต้านอนุมูลอิสระจัดการได้ เมื่อนั้นจะเข้าสู่สภาวะความเครียดออกซิเดชัน (oxidative stress) อนุมูลอิสระตัวร้ายก็จะเริ่มก่อกวนทำลายเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายอย่างช้า ๆ โดยที่เราไม่ทันรู้ตัว และสิ่งที่จะตามมาก็คือโรคที่เกิดจากความเสื่อมของอวัยวะต่าง ๆ ที่ไม่ได้เกิดเฉพาะกับผิวเท่านั้น
ดังนั้น หากไม่อยากให้ร่างกายเสื่อมโทรมหรือดูแก่ก่อนวัย เราจึงควรหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นอันก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ รีบป้องกันก่อนที่เซลล์จะถูกทำลายและเพิ่มปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระจากการรับประทานผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารหลากหลายชนิด บำรุงผิวพรรณให้แข็งแรงด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีสารป้องกันรังสีแสงแดดไม่ว่าจะกิจกรรมในที่ร่มหรือกลางแจ้ง และเลือกหาผลิตภัณฑ์ที่มอบประสิทธิภาพแอนติออกซิแดนท์สูงร่วมด้วย ทั้งนี้การปกป้องและป้องกันที่ดีที่สุดคือการใช้รูปแบบชีวิตที่เหมาะสมในการเอื้ออำนวยบำรุงดูแลให้ร่างกายได้ฟื้นฟูตัวอย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่จะเข้ามาได้เป็นอย่างดี