7 Steps ออกแบบ Packaging ขั้นเทพ
1. ขั้นตอนก่อนเริ่มออกแบบ
- รู้จักลูกค้า : สำรวจกลุ่มลูกค้าของสินค้าคุณสักนิด ช่วงอายุ ความชอบ การออกแบบแพคเกจจิ้งจะต้องทำให้ออกมาต้องตาต้องใจ สะดุดตากลุ่มลูกค้าที่ตั้งไว้
- เอกลักษณ์ของแบรนด์ : นอกจากเรื่องของกลุ่มเป้าหมายที่จะต้องรู้ดีแล้วนั้น อีกอย่างที่คุณต้องรู้คือ เอกลักษณ์ของสินค้าคุณเป็นอย่างไร? จะเป็นแนวเรียบหรู สีเข้ม ดูแพง หรือแนวเรียบง่าย คลาสสิค ลองเลือกเอกลักษณ์แบรนด์ของคุณเพื่อเตรียมออกแบบแพคเกจจิ้งในขั้นต่อไป
- กำหนดช่องทางการซื้อขาย : การวางแผนช่องทางการขายสินค้า ไม่ว่าจะวางขายหน้าร้าน ขายผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นอีกเรื่องที่คุณต้องกำหนดชัดเจนว่าเป็นอย่างไร เพราะถ้าขายผ่านช่องทางออนไลน์ เรื่องการขนส่งจะตามมา เพราะฉะนั้นแพคเกจจิ้งสำหรับสินค้าของคุณจะต้องเหมาะกับการขนส่งด้วยเช่นกัน
- รวบรวมตัวอย่างที่ชื่นชอบ : รวบรวมภาพตัวอย่างแพคเกจจิ้งในสไตล์ที่คุณชื่นชอบ ยิ่งได้เห็นตัวอย่างมาก ก็จะยิ่งทำให้เรามีไอเดียมากยิ่งขึ้น
2. ขั้นตอนการเสริมสวยให้แพคเกจจิ้ง
1. กำหนดมาตรฐานการออกแบบ
- สไตล์ : คุณอยากให้สินค้าสื่ออารมณ์ หรือเอกลักษณ์แบบไหน ลองกำหนดรูปแบบให้ชัดเจนว่าเป็น สไตล์ minimal สไตล์หรูหรา หรือสไตล์สีสันสดใส แล้วจดเอาไว้เพื่อใช้ในการออกแบบขั้นตอนต่อไป
- สี : ในการเลือกสีของแพคเกจจิ้ง จะต้องเป็นสีที่เข้ากับเอกลักษณ์ของแบรนด์ เป็นสีที่สามารถดึงดูดสายตา และความสนใจของลูกค้า และที่สำคัญจะต้องโดดเด่นกว่าสินค้าอื่น เพื่อให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ของเราได้ทันทีที่พบเห็น
- ฟ้อนต์ : การเลือกฟ้อนต์เองก็ต้องคำนึงถึงความโดดเด่น น่าสนใจ และแปลกตาเช่นกัน ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับสไตล์ของแบรนด์ เช่น ฟ้อนต์ตัวอักษรหนา จะช่วยสร้างความโดดเด่น ฟ้อนต์ตัวอักษรบาง จะเน้นความเรียบง่าย สบายตา นอกจากนี้เรื่องความเหมาะสมของตัวฟ้อนต์บนตัวบรรจุภัณฑ์ก็สำคัญ หากว่าบรรจุภัณฑ์ของคุณมีขนาดเล็ก ฟ้อนต์ที่ใช้ก็ไม่ควรจะใหญ่ หรือฉูดฉาดจนเกินไป ขณะเดียวกัน หากว่าบรรจุภัณฑ์มีขนาดใหญ่ ฟ้อนต์ก็จะต้องไม่เล็ก และบางจนลูกค้ารู้สึกว่าอ่านยากเกินไป
2. รวบรวมข้อมูลที่ต้องมีบนแพคเกจจิ้ง : อาทิเช่น ข้อมูลวันหมดอายุ วันผลิตสินค้า ภาพสินค้า ภาพกราฟฟิก รายละเอียดข้อมูลส่วนประกอบ ข้อมูลผู้จัดจำหน่าย เป็นต้น
3. ขั้นตอนเลือกประเภทแพคเกจจิ้ง
- แพคเกจจิ้งด้านนอก : แพคเกจจิ้งที่ลูกค้าจะต้องแกะออกเป็นขั้นแรก มักจะเป็นกล่องพัสดุ (การขายผ่านช่องทางออนไลน์) หรือถุงกระดาษ (ซื้อผ่านหน้าร้าน)
- แพคเกจจิ้งด้านใน : เป็นที่บรรจุสินค้า เช่น ลิปสติกหรือแป้งพัฟ แพคเกจจิ้งด้านในก็คือ กล่องกระดาษสี่เหลี่ยมนั่นเอง
- ตัวบรรจุภัณฑ์ของสินค้า : ก็คือตัวสินค้านั้นๆ นั่นเอง เช่น กระปุกครีม แท่งลิปสติก ขวดเซรั่ม
การเลือกประเภทของบรรจุภัณฑ์นั้นควรที่จะต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของการใช้งาน ว่าสินค้าของคุณเป็นเครื่องสำอางชนิดไหน และมีวิธีการใช้งานอย่างไร แต่ไม่ควรที่จะยึดติดกับภาพลักษณ์เดิมๆ ว่าบรรจุภัณฑ์แบบนี้จะใช้กับสินค้าประเภทนี้เท่านั้น เมื่อหาบรรจุภัณฑ์ที่ใช่สำหรับคุณได้แล้วก็ถึงขั้นตอนในการหาแหล่งที่ผลิตแพคเกจจิ้งของคุณแล้วล่ะค่ะ
4. ขั้นตอนการเลือกจุดโฟกัส สำหรับแพคเกจจิ้ง
ในขั้นตอนนี้จะเริ่มจากการเลือกจุดโฟกัสของสายตา ซึ่งตำแหน่งนี้จะเป็นตำแหน่งที่คุณใช้สื่อสารกับลูกค้า จุดโฟกัสหรือก็คือจุดที่เด่นที่สุด จะเป็นสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าสนใจอยากลองหยิบลองดูสินค้าของคุณ หรืออาจจะเป็นจุดที่ทำให้ลูกค้าสามารถจดจำสินค้าแบรนด์ของคุณได้ในทันที แต่อย่าลืมว่านอกจากจุดโฟกัสแล้ว การจัดวางภาพสินค้าบนกล่องเองก็ต้องชัดเจนและมองเห็นง่ายเช่นเดียวกัน
5. ขั้นตอนการเลือกวัสดุ และการพิมพ์ฉลาก
เรื่องวัสดุและการพิมพ์ฉลากของสินค้าแม้ว่าคุณจะมีตัวเลือกมากมายให้เลือก แต่อย่าลืมนะคะว่า การเลือกแบบที่ยุ่งยากและซับซ้อน ราคาต้นทุนเองก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยเช่นเดียวกัน แต่ในบางกรณีแบบที่ดูซับซ้อน หรูหราก็จำเป็น (เช่น กระดาษกันน้ำสำหรับสินค้าประเภทแชมพูหรือสบู่ เป็นต้น) โดยให้คำนึงถึงตัวสินค้า ภาพลักษณ์ของแบรนด์ และมาตรฐานที่คุณกำหนดไว้แต่ต้น
6. ขั้นตอนการเลือกผู้ออกแบบแพคเกจจิ้งเครื่องสำอางที่ใช่
DIY : ตัวคุณเองก็อาจจะเป็นผู้ที่ออกแบบแพคเกจจิ้งได้ การประดิษฐ์แพคเกจจิ้งเองวิธีนี้จะเป็นวิธีประหยัดต้นทุนได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าหากว่าคุณยังไม่มีประสบการณ์ วิธีนี้ก็ไม่แนะนำนะคะ อยากให้ท่องไว้เสมอว่า "ขั้นตอนการออกแบบแพคเกจจิ้งคือสิ่งที่สำคัญ ในการสร้างแบรนด์เครื่องสำอางของคุณให้ประสบความสำเร็จ"
จ้างผู้ออกแบบ : จะเป็นฟรีแลนซ์นักออกแบบ หรือบริษัทผู้ให้บริการ รับทำกล่อง ออกแบบกล่องสำหรับแบรนด์ของคุณ
7. ขั้นตอนเริ่มต้นออกแบบ
ขั้นตอนนี้จะต้องใส่ใจ และทุ่มเทเวลาให้สักนิด เพราะต้องอาศัยการพูดคุย บอกความต้องการให้กับผู้ออกแบบ โดยผู้ออกแบบจะออกแบบตัวอย่างให้คุณพิจารณา อาจมีการปรับเปลี่ยนจนได้แบบที่คุณพึงพอใจ ในขั้นตอนการตัดสินใจคุณอาจจะตัดสินใจด้วยตัวเองหรือลองถามกลุ่มลูกค้าของคุณด้วยคำถามเหล่านี้
- ใช่แบบที่จะดึงดูดสายตาของกลุ่มลูกค้าแล้วหรือยัง?
- นี่ใช่แบบที่จะสามารถสื่อถึงตัวสินค้าภายในได้แล้วหรือยัง?
- ดูเป็นสินค้าที่เข้าถึงง่าย ใช้ง่าย หรือไม่?
- โดดเด่นกว่าคู่แข่งหรือเปล่า?
- เป็นแบบที่จะยังสามารถใช้ได้ต่อไปถึง 5 ปีหรือไม่?
ถ้าหากว่าคุณได้ทำตามทุกขั้นตอนที่กล่าวไปแล้ว รับรองได้เลยว่าคุณจะได้แพคเกจจิ้งที่ตรงใจคุณแน่นอนค่ะ
"อย่าลืมนะคะ การออกแบบ Packaging เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในการสร้างแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จค่ะ"
มิสเดอร์มา
by Derma Innovation