ครีมบำรุงผิวให้ความชุ่มชื้น

Cold Cream คืออะไร? เหมาะกับผิวแบบไหน ทำไมถึงเป็นที่นิยมอย่างยาวนาน

หากพูดถึง Cold Cream แล้ว ต้องยอมรับว่าเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีประวัติยาวนานและได้รับความนิยมทั้งในวงการเครื่องสำอางและวงการแพทย์ ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในการให้ความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากการแห้งกร้าน ทำให้ Cold Cream ยังคงได้รับความไว้วางใจจากผู้คนมาหลายทศวรรษ แล้วทำไมผลิตภัณฑ์นี้จึงได้รับความไว้วางใจจากผู้คนมาอย่างยาวนาน? ปัจจัยที่ทำให้ Cold Cream แตกต่างจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิดอื่นคืออะไร? วันนี้ไปเรียนรู้เรื่องราวที่น่าสนใจของ Cold Cream พร้อม ๆ กัน เพื่อนำไปต่อยอดและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน

สกินแคร์

Cold Cream คืออะไร?

Cold Cream คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิดหนึ่งที่มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำและน้ำมัน เมื่อทาลงบนผิวจะรู้สึกเย็นสบาย ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานเนื่องจากมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้น ปกป้องผิว และทำความสะอาดได้อย่างอ่อนโยน ซึ่งแตกต่างจากครีมทั่วไปที่มักมีส่วนผสมของน้ำเป็นหลัก ครีมเย็นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งและบอบบางเป็นพิเศษ

ทำไมถึงเรียกว่า Cold Cream มีหลักการทำงานอย่างไร?

เนื่องจากครีมเย็น (Cold Cream) ทุกสูตรมีส่วนผสมของน้ำและน้ำมัน เมื่อทาครีมลงบนผิว น้ำจะระเหยออกไป ทำให้เกิดความรู้สึกเย็นสบาย จึงเป็นที่มาของชื่อ Cold Cream โดยมีส่วนประกอบหลัก คือ น้ำ น้ำมัน ขี้ผึ้ง และสารทำให้เกิดการผสม (Emulsifier) ซึ่งหลักการทำงานของ Cold Cream คือ การผสานน้ำและน้ำมันเข้าด้วยกันในรูปแบบของการอิมัลชัน หรือที่เรียกว่า Water-in-Oil Emulsion ทำให้ทั้งน้ำและน้ำมันสามารถอยู่ร่วมกันในรูปแบบที่เสถียรและไม่แยกชั้นออกจากกันได้ ทำให้ครีมมีเนื้อสัมผัสที่เรียบเนียนและไม่แยกส่วน ซึ่งแตกต่างจากครีมทั่วไปที่มักเป็นน้ำมันในน้ำ (Oil-in-Water Emulsion) 

ส่วนผสมสกินแคร์

โดยแต่ละส่วนประกอบจะมีหน้าที่เฉพาะ ดังนี้

  • น้ำ > ทำให้ผิวสดชื่นเมื่อทาลงไปบนผิวหน้า น้ำช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวที่แห้งหรือขาดน้ำ โดยช่วยลดการสูญเสียน้ำจากผิวระหว่างการทำความสะอาด
  • น้ำมัน > เช่น น้ำมันแร่ น้ำมันอัลมอนด์ หรือน้ำมันมะพร้าว ช่วยในการละลายสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนผิวหน้า และช่วยให้ผิวรู้สึกนุ่มนวลและไม่แห้งกร้านหลังจากการทำความสะอาด
  • ขี้ผึ้ง > เช่น ขี้ผึ้ง (Beeswax) หรือ ขี้ผึ้งคานเดลิลลา (Candelilla Wax) ช่วยให้ครีมมีเนื้อข้นและเนียน ซึ่งช่วยให้ครีมมีความสามารถในการปกป้องผิวจากการสูญเสียน้ำได้ดี ขี้ผึ้งจะช่วยสร้างฟิล์มบาง ๆ บนผิว ทำให้ผิวไม่สูญเสียน้ำอย่างรวดเร็ว และช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้น
  • สารทำให้เกิดการผสม > Emulsifier จะถูกเติมลงไป เพื่อช่วยรวมส่วนประกอบของน้ำมันและน้ำในครีมและสร้างอิมัลชันที่เสถียร

Cold Cream ช่วยเรื่องอะไร?

  • ทำความสะอาดผิว: Cold Cream เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพในการขจัดสิ่งสกปรก น้ำมัน และเครื่องสำอางจากผิวหน้า โดยจะทำงานโดยการละลายสิ่งสกปรกเหล่านี้ ทำให้สามารถเช็ดออกได้ง่ายด้วยสำลี
  • ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว: Cold Cream เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ดี ช่วยให้ความชุ่มชื้นและบำรุงผิว น้ำมันในครีมช่วยล็อคความชุ่มชื้นในผิว ทำให้ผิวรู้สึกนุ่มนวลและยืดหยุ่น
  • ลดการระคายเคืองของผิว: Cold Cream เป็นผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวบอบบาง ช่วยบรรเทาและลดการระคายเคืองของผิว พร้อมทั้งสร้างเกราะป้องกันเพื่อป้องกันการระคายเคืองเพิ่มเติม
  • ลดเลือนริ้วรอย: คุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นของ Cold Cream สามารถช่วยลดการปรากฏของริ้วรอยได้ โดยการเติมน้ำให้แก่ผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
  • ฟื้นฟูสภาพผิว: Cold Cream ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวโดยการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ซึ่งช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสและมีความกระจ่างใสขึ้น

Cold Cream เหมาะกับผิวแบบไหน และไม่เหมาะกับผิวแบบไหน?

ผู้หญิงกำลังทาครีม

Cold Cream เหมาะกับคนที่มีสภาพผิว ดังนี้

1. ผิวแห้ง (Dry Skin): หากเป็นคนที่มีผิวแห้ง ควรเลือก Cold Cream ที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น เช่น กลีเซอรีน (Glycerin), เชียบัตเตอร์ (Shea Butter) หรือเซราไมด์ (Ceramide) ซึ่งจะช่วยให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นและป้องกันไม่ให้ผิวแห้งกร้านหรือเป็นขุย

2. ผิวผสม (Combination Skin): สำหรับคนผิวผสม ควรเลือก Cold Cream ที่มีความสมดุลและเหมาะกับทั้งบริเวณผิวแห้งและผิวมัน อาจพิจารณาใช้ผลิตภัณฑ์ต่างชนิดกันในแต่ละจุดของใบหน้า ขึ้นอยู่กับความต้องการของผิวแต่ละส่วน

3. ผิวบอบบาง (Sensitive Skin): ในกรณีที่มีผิวบอบบาง ควรเลือก Cold Cream ที่อ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม สีสัน หรือสารที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์หรือส่วนผสมที่รุนแรง

4. ผิวที่มีอายุ (Mature Skin): สำหรับผิวที่เริ่มมีอายุหรือผิวที่มีริ้วรอย ควรเลือก Cold Cream ที่มีส่วนผสมต่อต้านริ้วรอย เรตินอล (Retinol), เปปไทด์ (Peptides), สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) และ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิว ลดเลือนริ้วรอยและเส้นบางๆ ที่เกิดจากการสูญเสียความยืดหยุ่นของผิวตามวัย 

หลายคนที่สงสัยว่า Cold Cream ช่วยรักษาสิวได้จริงหรือ? ซึ่งคำตอบก็คือ Cold Cream อาจช่วยบำรุงผิวและลดการระคายเคืองจากสิวได้บ้าง เพราะมันมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นและช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะและความแห้งกร้าน อย่างไรก็ตาม เรารู้กันเป็นอย่างดีว่า Cold Cream มีเนื้อครีมที่ค่อนข้างมัน ซึ่งอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวมันหรือผิวที่มีแนวโน้มจะเกิดสิวง่าย เพราะมันอาจทำให้รูขุมขนอุดตันได้ นอกจากนี้ Cold Cream ยังมีความมันที่ติดผิวค่อนข้างนาน ซึ่งทำให้ล้างออกได้ยากกว่าผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำหรือเนื้อเจล แต่ก็ยังล้างออกได้ง่ายกว่าผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำมัน เช่น Vaseline ที่อาจต้องใช้เวลาหรือผลิตภัณฑ์เสริมในการล้างออก 

แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคนเป็นสิวหรือคนมีผิวมันจะใช้ไม่ได้ เนื่องจากปัจจุบันมีการพัฒนาสูตร Cold Cream ที่เหมาะสมกับทุกสภาพผิวมากขึ้น โดยมีการเลือกใช้ส่วนผสมที่ไม่อุดตันรูขุมขน (Non-comedogenic) หรือมีน้ำหนักเบากว่าครีมทั่วไป เช่น Cold Cream ที่มีส่วนผสมของน้ำมันจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติเหมาะกับผิวมัน เช่น น้ำมันทีทรี หรือน้ำมันอโวคาโด ที่มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและไม่ทำให้ผิวมันมากเกินไป นอกจากนี้ การใช้ Cold Cream ในปริมาณที่พอเหมาะและการล้างหน้าให้สะอาดหลังการใช้ จะช่วยลดปัญหาการสะสมของครีมที่อาจทำให้รูขุมขนอุดตันได้เช่นกัน ดังนั้น Cold Cream ยังสามารถเป็นตัวช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและลดการระคายเคืองจากสิวได้ในบางกรณี แต่ควรเลือกสูตรที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณและใช้ด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผิวอุดตันหรือผิวมันมากเกินไป

2 ประเภทผลิตภัณฑ์จาก Cold Cream ที่ได้รับความนิยมสูงสุด

เนื้อครีมบำรุงผิว

แม้ว่าคำว่า “ครีม” จะอยู่ในชื่อของผลิตภัณฑ์ Cold Cream แต่ 2 รูปแบบที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Cold Cream Cleanser (น้ำยาทำความสะอาดผิว) และ Moisturizing Cold Cream (ครีมบำรุงผิว) ซึ่งแต่ละประเภทมีหน้าที่และการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. Cold Cream Cleanser

การใช้ Cold Cream ในรูปแบบของคลีนเซอร์ หรือผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถละลายเครื่องสำอางที่ติดทนได้ดี และช่วยให้ผิวรู้สึกสะอาดและชุ่มชื้นหลังการใช้งาน แม้ว่าคลีนเซอร์จะมีหลายรูปแบบ เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบโฟมและแบบเจล ซึ่งอาจรุนแรงต่อผิวได้หากมีสารลดแรงตึงผิวที่รุนแรงเกินไป และอาจไม่เหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย ดังนั้น การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางแบบ Cold Cream จึงถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการทำความสะอาดและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวในเวลาเดียวกัน

2. Moisturizing Cold Cream

ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในการให้ความชุ่มชื้นและการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก ทำให้ Cold Cream นิยมทำในรูปแบบของ Moisturizing (ครีมบำรุงผิว) ซึ่งเหมาะสมกับความต้องการของผิวที่แห้งหรือขาดความชุ่มชื้น เนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำมันและขี้ผึ้งที่ช่วยล็อกความชุ่มชื้นในผิว ไม่ให้ระเหยออกไป ทั้งนี้ Moisturizing Cold Cream ยังสามารถใช้ได้ทั้งในช่วงฤดูหนาวที่ผิวต้องการการปกป้องเป็นพิเศษ หรือในสภาพอากาศที่แห้งกร้าน นอกจากนี้ ยังสามารถผสมผสานกับสารสกัดจากธรรมชาติต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิวให้ดียิ่งขึ้น เช่น สารสกัดจาก Aloe Vera Vitamin E หรือ Hyaluronic Acid ทำให้ Moisturizing Cold Cream กลายเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน

ต่อยอด Cold Cream พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่หลากหลาย ที่ Derma Innovation

นอกจากไลน์ผลิตภัณฑ์ที่ได้กล่าวไปแล้ว Cold Cream ยังมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่หลากหลาย การนำ Cold Cream มาผสมผสานกับส่วนผสมอื่น ๆ จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีความแตกต่างและโดดเด่นในตลาด เช่น ลิปบาล์ม Cold Cream จะช่วยบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้น ลดการแตกเป็นขุย และปกป้องริมฝีปากจากสภาพอากาศที่แห้ง หรือผลิตภัณฑ์อาบน้ำ ที่ผสม Cold Cream จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นหลังการอาบน้ำ และลดอาการผิวแห้งคัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่ผิวมักจะขาดความชุ่มชื้นได้ง่าย ดังนั้น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่จาก Cold Cream จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการในการสร้างความแตกต่างและเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ ปรึกษาทุกกระบวนตั้งแต่การเลือกส่วนผสมไปจนถึงกระบวนการผลิตและการตลาดได้ที่ Derma Innovation รับรองมาตรฐานการผลิตระดับสากล ISO 22716 จาก SGS และ ASEAN GMP ของกระทรวงสาธารณสุข