เมล็ดองุ่น ที่เคยถูกมองข้ามและทิ้งเป็นขยะจากอุตสาหกรรมไวน์ กลับกลายมาเป็นขุมสมบัติทางธรรมชาติ ด้วยสารประกอบฟีนอลิกที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ Grape Seed กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในฐานะอาหารเสริมทั่วโลก ไปดูเรื่องราวของ Grape Seed กันดีกว่าว่าทำไมถึงเป็นสารสกัดที่นักวิทยาศาสตร์และนักโภชนาการต่างให้ความสนใจ พร้อมดูเทรนด์ตลาดของ Grape Seed ในฐานะอาหารเสริมกัน
Grape Seed Extract คืออะไร?
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract หรือ GSE) คือ สารสกัดที่ได้จากการนำเมล็ดองุ่นมาบดละเอียด แล้วสกัดเอาสารสำคัญออกมา และมีสารประกอบที่สำคัญอย่าง โปรแอนโธไซยานิดิน (Proanthocyanidins หรือ OPCs) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ เป็นต้น

แหล่งที่มาและกระบวนการผลิต Grape Seed
Grape Seed เป็นสารสกัดที่ได้จากเมล็ดขององุ่น (Vitis Vinifera) ซึ่งเป็นพืชในวงศ์ Vitaceae ที่มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะในแหล่งผลิตองุ่นใหญ่ ๆ เช่น ประเทศฝรั่งเศส อิตาลี สเปน และสหรัฐอเมริกา ซึ่งเมล็ดขององุ่นที่ถูกคัดเลือกและแยกออกจากผลองุ่น จะมีการอบแห้งเพื่อลดความชื้น จากนั้นจึงทำการบดให้ละเอียดและใช้วิธีสกัดด้วยตัวทำละลาย เช่น เอทานอล เพื่อดึงสารสำคัญในเมล็ดออกมา กระบวนการนี้จะช่วยให้ได้สารที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ เช่น โปรแอนโธไซยานิดินและฟลาโวนอยด์ หลังจากสกัดเสร็จสิ้น สารสกัดจะถูกกรองและเข้มข้นเพื่อให้ได้ความบริสุทธิ์สูงสุด จากนั้นจะทำการบรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดมิดชิดเพื่อรักษาคุณภาพของสารสกัด โดยทั้งหมดนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ได้สารสกัดที่มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยเสริมสุขภาพและความงาม
Grape Seed ช่วยอะไร?
- ลดความดันโลหิต: การมีความดันโลหิตสูงทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดหัวใจวายและหัวใจล้มเหลว ซึ่งมีงานวิจัยพบว่าการรับประทาน Grape Seed จะช่วยลดความดันโลหิตซิสโทลิ และไดแอสโทลิก ได้อย่างมีนัยสำคัญ
- ปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด: สารสกัดจากเมล็ดองุ่นอาจมีผลดีต่อผู้ที่เป็นโรคหัวใจและผู้ที่มีปัญหาด้านการไหลเวียนโลหิต เนื่องจากแทนนินใน Grape Seed ช่วยปกป้องผนังหลอดเลือดไม่ให้เสียหายได้
- ลดคอเลสเตอรอลชนิด LDL: Grape Seed ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้โดยการยับยั้งการออกซิเดชันของคอเลสเตอรอล LDL ชนิดไม่ดี และลดการออกซิเดชันในเนื้อเยื่อหัวใจในช่วงเวลาที่มีความเครียด
- เพิ่มระดับคอลลาเจนและความแข็งแรงของกระดูก: เนื่องจาก Grape Seed เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยฟลาโวนอยด์ จึงช่วยส่งเสริมการสังเคราะห์คอลลาเจนและช่วยเพิ่มความหนาแน่นและความแข็งแรงของกระดูกได้
- ป้องกันการเสื่อมสภาพทางสมอง: หนึ่งในส่วนประกอบของ Grape Seed คือ กรดกาแอลลิค (Gallic Acid) ซึ่งมันจะเข้าไปยับยั้งการก่อตัวของเส้นใยจากเบต้า-อะไมลอยด์เพปไทด์ในสมอง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคอัลไซเมอร์
- ต้านแบคทีเรียและต้านเชื้อรา: จากงานวิจัยพบว่า Grape Seed ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่พบในอาหาร เช่น Campylobacter และ E. coli ซึ่งทั้งสองชนิดมักเป็นสาเหตุของการเป็นพิษจากอาหารและอาการท้องเสียที่รุนแรง
- ป้องกันโรคภูมิแพ้: Grape Seed สามารถลดการผลิตฮีตามีนที่เป็นต้นเหตุของอาการแพ้ที่น่ารำคาญใจ เช่น น้ำมูกไหล เจ็บคอ หรือตาคัน
กินเมล็ดองุ่นสดแทนอาหารเสริมได้ไหม?
เห็นประโยชน์มากมายขนาดนี้หลายคนอาจจะคิดว่างั้นก็กินเมล็ดองุ่นสด ๆ ไปเลยแล้วกัน ซึ่งก็ต้องบอกว่าไม่แนะนำให้กินสด เนื่องจากเมล็ดองุ่นมีความขมและแข็ง ซึ่งอาจทำให้ยากต่อการเคี้ยวและย่อย นอกจากนี้ เมล็ดองุ่นมีสารที่เรียกว่า แทนนิน (Tannin) ซึ่งอาจทำให้เกิดความรู้สึกฝาดในปากและอาจระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารบางคนได้ การรับประทานเมล็ดองุ่นสด ๆ จึงไม่ได้ประโยชน์เท่ากับการรับประทานในรูปแบบของสารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract) ซึ่งผ่านกระบวนการสกัดเอาสารสำคัญอย่างโปรแอนโทไซยานิดิน (OPCs) มาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่
คำแนะนำในการทาน Grape Seed

Grape Seed เป็นอาหารเสริมในรูปแบบแคปซูล เม็ด และสารสกัดของเหลว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารโปรแอนโธไซยานิดิน 40 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ หรือมีสาร OPC ไม่น้อยกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ โดยทั่วไปแล้วการทาน Grape Seed ในปริมาณ 100–800 มิลลิกรัมต่อวันจะถือว่าเหมาะสมและปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ โดยปริมาณที่ต่ำกว่า 800 มิลลิกรัมจะเห็นผลดีในเรื่องการลดความดันโลหิต การต่อต้านอนุมูลอิสระ และการเสริมสร้างสุขภาพโดยรวม และควรทาน Grape Seed พร้อมมื้ออาหารเพื่อช่วยให้การดูดซึมสารสำคัญดีขึ้น และลดอาการระคายเคืองในกระเพาะอาหารจากการทานยาหรืออาหารเสริม
ข้อควรระวังของ Grape Seed
- ผู้ป่วยความดันโลหิตต่ำ: Grape Seed อาจทำให้ความดันโลหิตลดลงมากเกินไป จึงควรระมัดระวังหากทานยาลดความดันโลหิตอยู่
- ผู้ป่วยที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือด: Grape Seed อาจมีฤทธิ์ในการทำให้เลือดบางลง ควรหลีกเลี่ยงการทานร่วมกับยาละลายลิ่มเลือด เช่น แอสไพริน หรือวาร์ฟาริน
- ผู้ป่วยที่ขาดธาตุเหล็ก: เมื่อ Grape Seed ถูกทานร่วมกับอาหารที่มีธาตุเหล็กหรืออาหารเสริมธาตุเหล็ก อาจทำให้ประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุเหล็กลดลง
- สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร: ควรหลีกเลี่ยงการใช้ Grape Seed เนื่องจากอาจไม่ปลอดภัยต่อทารกในครรภ์และทารกแรกเกิด
แม้ Grape Seed จะถือว่าปลอดภัยโดยทั่วไป แต่การทานในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น ท้องเสีย หรือปวดท้องได้
ความนิยมและเทรนด์ตลาดของ Grape Seed
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract – GSE) ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดอาหารเสริม โดยเฉพาะในประเทศออสเตรเลีย เกาหลี ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา เนื่องจากคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์และบำรุงสุขภาพหลายด้าน อีกทั้งได้รับการยอมรับจากนักวิทยาศาสตร์และนักโภชนาการว่าเป็นแหล่งของสารประกอบฟีนอลิกที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจและมองหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของ Grape Seed มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่มองหาผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ และมีความสนใจในสุขภาพและการชะลอวัย
การเติบโตของ Grape Seed ในตลาดอาหารเสริมถือเป็นแนวโน้มที่น่าสนใจมาก โดยอ้างอิงจากข้อมูลของ Grand View Research บริษัทวิจัยตลาดระดับโลก ซึ่งคาดว่าตลาดอาหารเสริมที่มีสารสกัดจากเมล็ดองุ่นจะเติบโตในอัตราร้อยละ 5.3 ต่อปี (CAGR) ตั้งแต่ปี 2021 ถึง 2028 ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นในผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบำรุงสุขภาพและชะลอความเสื่อมของเซลล์
โอกาสใหม่ ๆ ที่น่าสนใจของ Grape Seed ในวงการสกินแคร์และเครื่องสำอาง

แม้ Grape Seed จะเป็นที่รู้จักกันในตลาดอาหารเสริม แต่คุณค่าของมันไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวงการนี้เท่านั้น Grape Seed ยังสามารถขยายไปสู่ตลาดเครื่องสำอางและสกินแคร์ได้อีกด้วย โดยเฉพาะน้ำมันจากเมล็ดองุ่นที่มีความนิยมสูงในวงการนี้ ซึ่งมักจะถูกสกัดด้วยวิธีการสกัดเย็น (Cold-press) ซึ่งมีกรรมวิธีที่แตกต่างจากการสกัดเมล็ดองุ่นในอุตสาหกรรมอาหารเสริมอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเหตุผลที่ต้องใช้วิธีสกัดเย็นก็เพื่อรักษาคุณค่าของสารสำคัญในน้ำมัน ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิวหนัง เช่น กรดไขมันโอเมก้า ยังคงไว้
ประโยชน์หลักประการหนึ่งของน้ำมันเมล็ดองุ่น คือ วิตามินอี กรดไลโนเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันโอเมก้า 6 ที่สามารถช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนและป้องกันการเกิดสิว นอกจากนี้ ยังมีสารประกอบสำคัญอื่น ๆ เช่น เบตาแคโรทีน วิตามินซีและดี และโพลีฟีนอล ซึ่งทั้งหมดนี้มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำลายจากรังสี UV และสารก่อมะเร็งที่อาจพบในสิ่งแวดล้อม
การขยายตัวของตลาดเครื่องสำอางและสกินแคร์ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำมันเมล็ดองุ่น จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้ประกอบการสามารถใช้เพื่อพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านสุขภาพผิวและความยั่งยืนในยุคปัจจุบัน ในขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับผู้บริโภคที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการดูแลผิวพรรณอย่างแท้จริง
Grape Seed ที่เคยถูกมองข้าม กลับกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาด!
ในยุคที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพ ส่งผลให้ความต้องการในผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องมีประสิทธิภาพ และได้มาตรฐาน ทำให้ Grape Seed หนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจทั้งในตลาดวงการเครื่องสำอาง สกินแคร์ และอาหารเสริม หากคุณเป็นผู้ประกอบการที่มองหาวิธีสร้างความแตกต่างและจับ Pain Point ของตลาดได้อย่างแม่นยำ โอกาสสำคัญมาถึงแล้ว เพราะ Derma Innovation สามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเลือกใช้ Grape Seed ในผลิตภัณฑ์ของคุณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล ไม่ว่าจะเป็น GMP, ASEAN GMP, ISO 9001, ISO 22716, FDA และ Green Industry พร้อมแนะนำวิธีการเสริมประสิทธิภาพด้วยสารประกอบที่เข้ากันได้ดีกับ Grape Seed เพื่อเพิ่มระดับความสามารถผลิตภัณฑ์ของคุณให้เหนือกว่าใคร
source: nih.gov, healthline.com