Derma Innovation เพื่อนคู่คิด เจ้าของธุรกิจสุขภาพ และความงาม

Last updated: 22 Jul 2019  |  5588 Views  | 

Derma Innovation เพื่อนคู่คิด เจ้าของธุรกิจสุขภาพ และความงาม

Derma Innovation

เพื่อนคู่คิด เจ้าของธุรกิจสุขภาพ และความงาม

 

พลิกชีวิตนักขายออนไลน์สู่ผู้ผลิตมืออาชีพ

หากเสิร์ชชื่อของ อาชวิณ ชวาลารัตน์ จะพบว่าผู้บริหารหนุ่มคนนี้มีประวัติที่น่าสนใจและอาจเป็นกรณีศึกษาที่น่าชื่นชมสำหรับผู้ประกอบการ รุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี เขาคือนักธุรกิจรายแรกๆ ของประเทศที่กล้าลุกขึ้นมาประกาศว่า ธุรกิจออนไลน์คือโอกาสที่สดใสและเป็นเทรนด์ธุรกิจที่สามารถ ทำเงินได้มหาศาล ย้อนไปเมื่อปี 2550-52 อาชวิณ เริ่มวิถีความเป็นผู้ประกอบการอย่างจริงจังด้วยการขายสินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง น้ำหอม และ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผ่านเว็บไซต์ มีกระแสตอบรับและยอดขายที่ดี ขายง่าย ขายไว เนื่องจากขณะนั้นถือว่าเขาอยู่ในยุคแรกที่หันมาใช้แพล็ตฟอร์ม เว็บไซต์ในการเปิดตลาด และกระแสการตลาดด้วยโซเชียลเน็ตเวิร์คยังไม่แพร่หลายเท่าตอนนี้ “ถึงแม้ว่าเราจะสร้างยอดขายได้มากและสร้างฐานลูกค้าต่อเนื่องมาเรื่อยๆ เพราะเราคัดเลือกสินค้าคุณภาพใช้แล้วเห็นผลจริงมาจำหน่าย ยึดมั่นในความน่าเชื่อถือทั้งผลลัพธ์จากผู้ใช้จริง แพ็คสินค้าเร็ว และการส่งมอบสินค้าทันทีหลังชำระเงินและการใช้ช่องทางเว็บไซต์ก็ทำให้เราใส่ ข้อมูลสินค้าได้อย่างเต็มที่ ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ทันที ซึ่งตอนนั้นเรารับออเดอร์คำสั่งซื้อผ่านโทรศัพท์ ปรากฏว่าเสียงโทรศัพท์ดังทุกนาที แม้จะมีเครื่องรองรับถึง 6 เครื่องก็ตาม แต่หลังจากนั้นประมาณ 2 ปี ผมและหุ้นส่วนก็มานั่งพูดคุยปรึกษากันถึงเรื่องความมั่นคงและความน่าเชื่อถือ ในการทำธุรกิจ เรามองไปไกลถึงอนาคตว่า ต่อไปก็ต้องมีคนรุ่นใหม่มาทำธุรกิจนี้มากขึ้น และเขาอาจจะเก่งกว่าเรา จึงเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิด ขยายธุรกิจใหม่ ซึ่งพวกเราเลือกที่จะขยายไปที่ต้นน้ำ เปลี่ยนมาเล่นบทผู้ผลิต ซึ่งเป็นที่มาของการก่อตั้ง บริษัท เดอร์มา อินโนเวชั่น จำกัด และ นำไปสู่การวางแผนบริหารจัดการธุรกิจรับผลิตเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบครบวงจรอย่างเป็นกระบวนการ”

มุ่งมั่นสู่วิถีตัวจริงในวงการผู้ผลิต

กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอร์มา อินโนเวชั่น จำกัด เล่าต่อว่า จุดแข็งของธุรกิจผู้ผลิตเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว คือกระบวนการวิจัยและพัฒนา ผู้บริหารจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการสร้างองค์ความรู้เรื่องเวชสำอางและความปลอดภัย จึงเข้าไปศึกษาอย่างลงลึกและจริงจัง จากนั้นก็เดินหน้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป เริ่มต้นจากเครื่องจักร 1-2 ตัว กับพนักงานเพียง 5 คน เปิดโอกาสตัวเองและทีมงาน เข้าไปเรียนรู้จากทั้ง หน่วยงานภาครัฐ อย่างสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตลอดจนอาจารย์ที่ปรึกษาหลายๆ ท่าน เพื่อขอคำแนะนำด้านมาตรฐาน โรงงานและการวางระบบต่างๆ บวกกับรับฟังความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมแก้ไขปรับปรุงจนกว่าจะเป็นที่พอใจของลูกค้า นำไปสู่การ พัฒนาจนเกิดความชำนาญเชี่ยวชาญ ขยายขนาดของธุรกิจจากไซส์เอสไปเอ็มอย่างมั่นคงได้ในที่สุด “แล้วก็เป็นอย่างที่เราคาดการณ์และทำนายไว้ หลังจากเราหันมาทุ่มเทกับการเป็นผู้ผลิต เพราะมองเห็นแนวโน้มตลาดคอสเมติกและ บำรุงผิวเติบโตและขยายตัวอย่างแน่นอน เกิดผู้ประกอบการในตลาดมากขึ้น เขาก็ต้องหาผู้ผลิต นั่นทำให้เราได้ยอดขายการผลิตเข้ามาเพิ่มขึ้น สวนทางกับยอดขายในการทำตลาดออนไลน์ผ่านเวปไซต์ของธุรกิจเดิมเริ่มน้อยลง เพราะคนหันไปใช้แพล็ตฟอร์มสมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดีย อย่าง เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม มากขึ้น ยิ่งทำให้เรามั่นใจว่าเดินมาถูกทางและตั้งใจที่จะพัฒนาต่อยอดโรงงานและเดินเครื่องผู้ผลิตเต็มตัว” ปัจจุบัน เดอร์มา อินโนเวชั่น สามารถสร้างชื่อเสียงในการเป็นผู้ผลิตด้วยทีมนักวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และมีทีมงานผู้ควบคุมการผลิตและการวิจัยผลิตภัณฑ์ คิดค้นสูตรเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใหม่ๆ รวมถึงกระบวนการผลิตที่ทันสมัย ปลอดภัย เป็นโรงงานผลิตที่สามารถควบคุมการผลิตให้ได้มาตรฐานในทุกขั้นตอน ทั้งมาตรฐานเพื่อทำตลาดในประเทศและมั่นใจในการส่งออก อย่าง ASEAN GMP, ISO 9001, ISO 22716 (GMP Europe) และ HALAL พร้อมวางตำแหน่งการตลาดเป็นมืออาชีพที่จะช่วยสร้างแบรนด์สินค้า ให้กับเจ้าของธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้นจนประสบความสำเร็จ โดยรับผลิตเครื่องสำอาง สบู่ และครีมบำรุงผิวทุกชนิด บริการด้านบรรจุภัณฑ์ พร้อม บริการขึ้นทะเบียนเครื่องสำอางควบคุมทุกผลิตภัณฑ์กับ อย. ภายใต้แบรนด์ของลูกค้า รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาด และช่องทางจัดจำหน่าย ซึ่งถือเป็นการให้บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ครบวงจรอย่างแท้จริง “สำหรับความท้าทายในธุรกิจนี้ ผมขอยกตัวอย่างสถานการณ์ในปี 2561 ในตอนนั้นเรียกว่าเป็นวิกฤติของวงการนี้เลยก็ว่าได้ ด้วยกระแสข่าว ทั้งการปลอมปนสารเคมีอันตรายในผลิตภัณฑ์ หรือแม้กระทั่งการทำธุรกิจแอบแฝงหลอกลวง ทำให้ตลาดนี้ชะงักลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ผมก็ มองเป็นเชิงบวก เพราะทำให้ผู้บริโภคตื่นตัว ตัดสินใจอย่างระมัดระวัง และหันมาพิจารณามองหามาตรฐาน สนใจหาความรู้และใส่ใจรายละเอียด ที่มาของผลิตภัณฑ์ที่ใช้มากขึ้น เหมือนทำให้เกิดการคัดกรองผู้ผลิตและเจ้าของผลิตภัณฑ์ได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งต้องเป็นตัวจริงในตลาดเท่านั้นจึงจะ อยู่รอดและเติบโตได้”

เป้าหมายผู้นำในตลาดอาเซียน

ผู้บริหารหนุ่มวัย 33 ปี กล่าวต่อว่า การต่อยอดธุรกิจ นอกจากเพิ่มกำลังการผลิตด้วยมาตรฐานโรงงาน มีกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพสูง ด้วยการใช้เครื่องจักรเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากประเทศเกาหลี ที่มีความปลอดภัยขั้นสุดแล้ว เขายังให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งเจ้าของ แบรนด์ที่ทำตลาดออนไลน์ กลุ่มดารานักแสดงผู้มีชื่อเสียง กลุ่มแพทย์และคลินิก รวมทั้งสถานบริการความสวยความงาม โดยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

ผ่านกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ เปิดพื้นที่ให้ลูกค้าเข้ามาพูดคุย เน้นอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตของโรงงาน และใช้หลัก ความจริงใจกับลูกค้า ดูแลเอาใจใส่ตั้งแต่ก่อนตัดสินใจเริ่มผลิตจนถึงบริการหลังการขาย อีกทั้งยังสร้างความแตกต่าง โดยมุ่งเป็นพันธมิตรธุรกิจกับ ลูกค้า ด้วยการเพิ่มช่องทางด้านฝึกอบรม (Training) จัดคอร์สสัมมนา ทั้งแบบ Public และ In-house ตั้งแต่ปี 2559 ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง และที่ปรึกษาในการสร้างแบรนด์ แนะนำช่องทางและเครื่องมือการตลาดให้กับ ลูกค้าและผู้สนใจที่จะทำตลาดเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และสุขภาพซึ่งได้ผลตอบรับที่น่าพึงพอใจ มีผู้เข้าร่วมกว่า 200-300 คน เต็มจำนวนทุกครั้ง นอกจากนั้น เดอร์มา อินโนเวชั่น ยังยึดมั่นเดินหน้าเพื่อสร้างสรรค์ ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงออกสู่ตลาดด้วยจุดแข็งทั้งสามด้าน นั่นคือการผลิต ที่ได้มาตรฐาน Premium Quality ให้ความสำคัญกับความอยู่รอดของ เจ้าของธุรกิจ ผสมผสานกับการใส่ Innovation ลงไปในสินค้า ซึ่งโดดเด่น มากในเรื่องสารสกัดใหม่ล่าสุด ที่นำไปทำตลาดได้โดยที่ไม่ซ้ำแบบใคร พร้อม รับผิดชอบ (Responsibility) ต่อคู่ค้า ลูกค้า และสังคม ไม่ดำเนินการผลิต ที่ส่งผลกระทบกับชุมชน โดยคำนึงถึงมาตรฐานโรงงานสีขาวเป็นสำคัญ “เรามี Passion และ Vision ที่ชัดเจนมาก นั่นทำให้เราก้าวมาถึงจุดนี้และมั่นใจกับเป้าหมายที่จะมุ่งสู่การเป็นโรงงานผู้ผลิตเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบบครบวงจร อันดับหนึ่งในอาเซียนภายในอีก 10 ปีนี้ได้อย่างแน่นอน โดยเราได้เตรียมความพร้อมทั้งกระบวนการผลิต มีแพลนขยายโรงงานให้มีขนาดใหญ่ขึ้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่จะเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนความพร้อมของพนักงาน มีทีมการตลาดทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ที่จะเดินกำลังเต็มสูบ เพื่อเจาะตลาดเพื่อนบ้าน CLMV นั่นคือ ลาว พม่า เวียดนาม และกัมพูชา ก่อนเป็น อันดับแรก ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มาแรง และมีแนวโน้มการตลาดที่เติบโตสูงอย่างมากในขณะนี้ เนื่องจากนักธุรกิจและผู้บริโภคชาวกัมพูชา เวียดนาม และพม่า เชื่อมั่นในสินค้าไทยอย่างมาก และมีกำลังซื้อสูงอีกด้วย”

พึ่งพาหน่วยงานรัฐ ต่อยอดความสำเร็จ

ถึงแม้บริษัทฯ จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ได้รับรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ ประจำปี 2561 แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าทุกธุรกิจย่อมมีอุปสรรคในการบริหารจัดการภายในองค์กร ส่งผลให้ ต้องมองหาแนวทางเพิ่มศักยภาพการผลิตจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โดยเข้าร่วมโครงการลดต้นทุนโลจิสติกส์ เพื่อยกระดับมาตรฐานการขนส่ง และคลังสินค้าให้ดียิ่งขึ้น หวังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้เร็วขึ้น โดยสามารถนำความรู้ไปปรับใช้อย่างเห็นผล พร้อมประยุกต์คำแนะนำจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้วลงมือทำ แก้ไขปรับปรุงทันที จนสามารถ ลดต้นทุนการบริหารสินค้าคงคลังได้เฉลี่ยมากกว่า 30% และอัตราการส่งมอบสินค้าเร็วขึ้น เป็นเท่าตัว นอกจากนั้นยังโดดเด่นจนคว้ารางวัลชนะเลิศ พัฒนาการโลจิสติกส์อุตสาหกรรมดีเด่น ประจำปี 2561 ด้านการพัฒนาและลดต้นทุนโลจิสติกส์ มาครองได้อีกด้วย อาชวิณ กล่าวต่อว่า ความสำเร็จของ เดอร์มา อินโนเวชั่น เกิดจากการวางแผนธุรกิจอย่าง ระมัดระวัง ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยการเตรียมพร้อมทั้งบวกและลบ มีการเตรียมเงินทุนสำหรับ ใช้จ่ายในยามวิกฤติ และเป็นธุรกิจที่มีเป้าหมายอย่างชัดเจน นั่นคือการได้เห็นลูกค้าประสบ ความสำเร็จในธุรกิจและมีความสุข อีกทั้งผู้บริหารทั้งห้าคนต่างรับผิดชอบในหน้าที่ และเชี่ยวชาญในแขนงงานที่ดูแลอย่างเต็มที่ ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า เดอร์มา อินโนเวชั่น คือผู้นำด้านการผลิต ด้านความงาม และสินค้าเพื่อสุขภาพด้วยนวัตกรรมได้อย่างเต็มภาคภูมิ และไม่เพียงแต่ความมุ่งมั่นในการทำงานเท่านั้น ผู้บริหารหนุ่มเผยว่า “บุญ” ยังอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทฯ ด้วยเช่นกัน เขาเชื่อ เสมอว่า “ยิ่งให้ ยิ่งได้” จึงเป็นที่มาของกิจกรรมทำประโยชน์ให้กับสังคมอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงกิจกรรมทำบุญถวายภัตตาหารเพลที่จัดขึ้น ภายในบริษัทฯ เป็นประจำทุกเดือน โดยให้พนักงานมีส่วนร่วม นอกจากนั้นตัวของเขาเองยังจัดสรรเวลาเพื่อเดินทางไปปฏิบัติธรรมอย่าง สม่ำเสมอ ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีทั้งชีวิตส่วนตัวและการทำงานเป็นอย่างยิ่ง

 

ที่มา : อุตสาหกรรมสาร วารสารของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ฉบับเดือน ก.ค. - ส.ค. 2562 หน้าที่ 13-15

อ่านเพิ่มเติม http://e-journal.dip.go.th/th

 

 

 

คลิกดูมาตรฐานของเดอร์มา อินโนเวชั่น 

www.derma-innovation.com/our-standard

 


This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our Privacy Policy  and  Cookies Policy