วิตามินบีรวมคือกลุ่มของสารอาหารสำคัญที่ร่างกายขาดไม่ได้ มีบทบาทเป็นหัวใจสำคัญในกระบวนการสร้างพลังงานและการทำงานของระบบประสาท การได้รับวิตามินบีรวมอย่างเพียงพอจึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายและสมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเหนื่อยล้า และช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นพร้อมลุยในทุกวัน
ในปัจจุบันผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพและมองหาอาหารเสริมเพื่อเติมเต็มสารอาหารที่ขาดไปจากการใช้ชีวิตที่เร่งรีบมากขึ้น ความต้องการในตลาดจึงสูงขึ้นตามมา ส่งผลให้นักธุรกิจจำนวนมากเล็งเห็นโอกาสและสนใจที่จะสร้างแบรนด์อาหารเสริมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์สุขภาพที่หลากหลาย แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจลงทุนในตลาดนี้อย่างเต็มตัว มาดูกันก่อนว่าวิตามินบีรวมช่วยเรื่องอะไร มีความสำคัญต่อร่างกายอย่างไรบ้าง และเหตุผลใดที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ Vitamin B Complex กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมที่ไม่ควรมองข้าม
สารบัญบทความ
- วิตามินบีรวมคืออะไร? สารอาหารที่ห้ามมองข้าม
- วิตามินบีรวมช่วยเรื่องอะไร มีประโยชน์ต่างกันอย่างไรบ้าง
- วิตามินบี ได้รับจากอาหารอะไรบ้าง
- ทำไมปัจจุบันคนจึงเลือกทานอาหารเสริมวิตามินบีรวม
- วิตามินบีรวมควรทานตอนไหน
- ข้อระวังในการทานวิตามินบีรวม
- สรุป พลังงานชีวิตที่ Vitamin B Complex มอบให้คุณ พร้อมโอกาสสร้างแบรนด์แห่งอนาคต
วิตามินบีรวมคืออะไร? สารอาหารที่ห้ามมองข้าม
วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex) ไม่ใช่สารอาหารชนิดเดียว แต่เป็นการรวมตัวของวิตามินบีทั้งหมด 8 ชนิดที่ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นกลุ่มของวิตามินที่ละลายในน้ำ (Water-soluble Vitamins) หมายความว่าร่างกายจะไม่สะสมวิตามินเหล่านี้ไว้และจะขับส่วนเกินออกทางปัสสาวะ จึงจำเป็นต้องได้รับอย่างสม่ำเสมอทุกวัน วิตามินบีรวมเป็นเสมือน “ผู้จัดการพลังงาน” ของร่างกายมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรต ไขมันและโปรตีนที่เรากินเข้าไปให้กลายเป็นพลังงานที่เซลล์สามารถนำไปใช้ได้
เหตุผลที่ Vitamin B Complex มีความจำเป็นต่อร่างกายก็คือหน้าที่ในการช่วยบำรุงและควบคุมระบบประสาทและสมองให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด หากร่างกายได้รับวิตามินบีรวมไม่เพียงพออาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพหลายอย่าง ตั้งแต่ความอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไปจนถึงปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง ระบบทางเดินอาหาร และการทำงานของระบบประสาท ซึ่งความสำคัญของวิตามินบีรวมนี้เองที่ทำให้มันเป็นสารอาหารพื้นฐานที่ไม่สามารถมองข้ามได้ในการดูแลสุขภาพในยุคปัจจุบัน
วิตามินบีรวมช่วยเรื่องอะไร มีประโยชน์ต่างกันอย่างไรบ้าง
วิตามินบีรวมช่วยเรื่องอะไร? คำตอบคือช่วยในเกือบทุกระบบสำคัญของร่างกาย วิตามินบี มีอะไรบ้าง เราจะพบว่าวิตามินบีแต่ละตัวมี วิตามินบี ประโยชน์ และหน้าที่เฉพาะที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. วิตามินบี 1 (ไทอามีน – Thiamin)
เป็นตัวช่วยสำคัญในการเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสให้เป็นพลังงาน (ATP) มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ รวมถึงกล้ามเนื้อหัวใจด้วย การขาดวิตามินบี 1 อาจนำไปสู่อาการเหน็บชา (โรคเหน็บชา)
2. วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน – Riboflavin)
มีบทบาทในการเผาผลาญไขมันและโปรตีน รวมถึงการสร้างพลังงานในระดับเซลล์ ช่วยบำรุงผิวพรรณ เล็บและเส้นผมให้แข็งแรง มีส่วนช่วยในการมองเห็นและลดอาการปวดหัวไมเกรน
3. วิตามินบี 3 (ไนอะซิน/ไนอะซินาไมด์ – Niacin/Niacinamide)
ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ และมีความสำคัญต่อการไหลเวียนโลหิตที่ดี มีบทบาทในการเป็นวิตามินลดสิว ช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดอาการอักเสบและการระคายเคืองของผิว ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยในการดูแลเรื่องสิวได้
4. วิตามินบี 5 (กรดแพนโทเทนิก – Pantothenic Acid)
มีส่วนร่วมในการผลิตฮอร์โมนสำคัญหลายชนิด เช่น ฮอร์โมนความเครียด (คอร์ติซอล) และฮอร์โมนเพศ รวมถึงช่วยในการสลายไขมันและคาร์โบไฮเดรตเพื่อใช้เป็นพลังงาน ช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและส่งเสริมการสร้างภูมิต้านทาน
5. วิตามินบี 6 (ไพริดอกซิน – Pyridoxine)
มีความสำคัญต่อการสร้างสารสื่อประสาทในสมอง (เช่น เซโรโทนิน และนอร์เอพิเนฟริน) ซึ่งช่วยควบคุมอารมณ์และการนอนหลับ นอกจากนี้ยังช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ วิตามินบี 6 ยังมีสรรพคุณที่สำคัญคือการทำงานร่วมกันในการบำรุงระบบประสาทโดยตรง
6. วิตามินบี 7 (ไบโอติน – Biotin)
เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อไบโอตินซึ่งเป็นสารอาหารหลักในการดูแลสุขภาพผม ผิวและเล็บ ช่วยในการเผาผลาญไขมัน โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตให้เป็นพลังงาน ทำให้ผิวกระจ่างใสและเส้นผมแข็งแรง
7. วิตามินบี 9 (กรดโฟลิก/โฟเลต – Folic Acid/Folate)
มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสังเคราะห์ DNA การแบ่งเซลล์ การสร้างเม็ดเลือดแดง และการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย จำเป็นสำหรับสตรีมีครรภ์เพื่อป้องกันความผิดปกติของระบบประสาทในทารกในครรภ์
8. วิตามินบี 12 (โคบาลามิน – Cobalamin)
วิตามินบี B12 ช่วยอะไร? คือคำถามที่พบบ่อย วิตามินบี 12 ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมองให้เป็นปกติ ช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และช่วยในการเผาผลาญไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต การขาด วิตามินบี 12 มักพบในกลุ่มผู้ที่รับประทานมังสวิรัติหรือผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลหิตจางและปัญหาทางระบบประสาท
วิตามินบี ได้รับจากอาหารอะไรบ้าง

หากร่างกายเริ่มแสดงอาการอ่อนเพลีย นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าคุณ ขาดวิตามินบี ต้องกินอะไร เพื่อแก้ไขภาวะนี้? โชคดีที่ วิตามินบีรวม สามารถหาได้จากอาหารหลากหลายชนิดดังนี้
- ธัญพืชและถั่ว : ธัญพืชไม่ขัดสี (เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต), ถั่วเปลือกแข็ง (เช่น อัลมอนด์ ถั่วลิสง), และเมล็ดพืช เป็นแหล่งของวิตามินบีเกือบทุกชนิด โดยเฉพาะวิตามินบี 1 และวิตามินบี 9 (โฟเลต)
- เนื้อสัตว์และเครื่องในสัตว์ : เนื้อวัว เนื้อไก่ และเครื่องในสัตว์ (เช่น ตับ) ถือเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยวิตามินบีในปริมาณสูง โดยเฉพาะ วิตามินบี 12 ซึ่งพบได้ในผลิตภัณฑ์จากสัตว์เท่านั้น
- ปลาและอาหารทะเล : ปลาทะเล เช่น ปลาแซลมอนและหอยต่าง ๆ เป็นแหล่งชั้นดีของวิตามินบี 12 และวิตามินบี 3
- ไข่และผลิตภัณฑ์จากนม : ไข่ไก่และนมเป็นแหล่งที่ดีของวิตามินบีรวมหลายชนิด โดยเฉพาะวิตามินบี 2 และวิตามินบี 12
- ผักใบเขียว : ผักใบเข้ม เช่น ผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง เป็นแหล่งชั้นยอดของวิตามินบี 9 (โฟเลต)
- ยีสต์ (Nutritional Yeast) : เป็นแหล่งอาหารเสริมวิตามินบีสำหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติหรือวีแกน เนื่องจากมีวิตามินบีรวมสูง รวมถึงวิตามินบี 12 ที่เติมลงไป
ทำไมปัจจุบันคนจึงเลือกทานอาหารเสริมวิตามินบีรวม
วิตามินบีรวมเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการและขาดไม่ได้ แต่ด้วยวิถีชีวิตในปัจจุบันที่มีแต่ความเร่งรีบ การทำงานหนัก และการใช้ชีวิตนอกบ้านบ่อยครั้ง ทำให้หลายคนไม่สามารถทานอาหารที่มีวิตามินบีอย่างครบถ้วนและเพียงพอในทุก ๆ วันได้ ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น
- ไม่มีเวลาเตรียมอาหาร การทำงานที่ต้องแข่งขันกับเวลา ทำให้หลายคนต้องเลือกทานอาหารสำเร็จรูป อาหารจานด่วน หรืออาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูป ซึ่งมีปริมาณวิตามินบีต่ำ
- การควบคุมอาหาร/ข้อจำกัดด้านอาหาร ผู้ที่รับประทานมังสวิรัติหรือวีแกนมีความเสี่ยงสูงที่จะขาดวิตามินบี 12 เนื่องจากเป็นวิตามินที่พบได้เฉพาะในเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์เท่านั้น
- ภาวะเครียดและปัจจัยเสี่ยง ความเครียด การดื่มกาแฟ/แอลกอฮอล์ และการทานยาบางชนิด สามารถลดการดูดซึมหรือเพิ่มการขับวิตามินบีออกจากร่างกาย ทำให้ความต้องการ Vitamin B Complex เพิ่มสูงขึ้น
หากร่างกายขาดวิตามินบีอย่างต่อเนื่องอาจนำไปสู่อาการอ่อนเพลียเรื้อรัง (Chronic Fatigue), ภาวะโลหิตจาง (Anemia), ปัญหาทางระบบประสาท (Nerve Damage) เช่น อาการชา และปัญหาสุขภาพผิว ดังนั้นการเลือกทานอาหารเสริมคือทางออกที่ง่าย สะดวก และมีประสิทธิภาพ เพื่อเติมเต็มช่องว่างทางโภชนาการและมั่นใจได้ว่าร่างกายจะได้รับ Vitamin B Complex อย่างครบถ้วนและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
วิตามินบีรวมควรทานตอนไหน

คำถามที่ว่าวิตามินบีรวม ควรทานตอนไหนเป็นเรื่องที่หลายคนสงสัย เนื่องจากวิตามินบีมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับกระบวนการสร้างพลังงาน
คำแนะนำหลักคือ ควรทานวิตามินบีรวมพร้อมมื้ออาหาร (preferably มื้อเช้า)
- เหตุผลที่ควรทานพร้อมมื้อเช้า : วิตามินบีรวมมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน ดังนั้นการทานในตอนเช้าจะช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานไปใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดทั้งวัน นอกจากนี้การทานพร้อมอาหารจะช่วยเพิ่มการดูดซึมของวิตามินบีได้ดีขึ้น เนื่องจากมีไขมันจากอาหารเป็นตัวช่วย
- เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยงการทานก่อนนอน : เนื่องจาก วิตามินบีรวม ให้พลังงานและมีผลต่อระบบประสาท การทานในปริมาณที่สูงเกินไปก่อนนอนอาจทำให้บางคนรู้สึกตื่นตัวและอาจรบกวนการนอนหลับได้เล็กน้อย
สำหรับคำถามที่เจาะจงลงไปว่า วิตามินบี 12 กินตอนไหน คำตอบก็เช่นเดียวกับวิตามินบีรวม คือสามารถทานพร้อมอาหารได้เลย โดยมีรายงานว่า วิตามินบี 12 นั้นดูดซึมได้ดีกว่าเมื่อทานพร้อมกับอาหารเช้าหรือก่อนมื้ออาหาร แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการทานอย่างสม่ำเสมอในปริมาณที่แนะนำ
ข้อระวังในการทานวิตามินบีรวม
ถึงแม้ว่าวิตามินบีรวมจะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ยังมีข้อควรระวังบางประการและกลุ่มคนบางกลุ่มที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มทาน Vitamin B Complex หรือทานในปริมาณที่สูงเกินไป ดังนี้
ข้อควรระวังทั่วไป
- ปริมาณที่สูงเกินไป : แม้จะละลายน้ำแต่การได้รับวิตามินบีรวมในปริมาณที่สูงมากเป็นระยะเวลานานอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น การได้รับวิตามินบี 6 สูงเกินไปอาจนำไปสู่ความเสียหายของเส้นประสาท (Nerve Damage) หรืออาการชา
- สีของปัสสาวะ : หลังทานวิตามินบีรวม ปัสสาวะจะมีสีเหลืองเข้มหรือสว่างมากเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากร่างกายกำลังขับวิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) ส่วนเกินออกซึ่งไม่เป็นอันตราย
กลุ่มบุคคลที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวร้ายแรง : ผู้ป่วยโรคตับ, โรคไต, หรือมีประวัติเป็นโรคมะเร็งบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทาน
- สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร : ควรปรึกษาแพทย์เพื่อปรับปริมาณวิตามินบีรวมให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะบุคคล โดยเฉพาะวิตามินบี 9 (โฟลิก) และวิตามินบี 12
- ผู้ที่ทานยาบางชนิด : Vitamin B Complex บางตัวอาจทำปฏิกิริยากับยาที่ใช้อยู่ เช่น ยาที่ใช้รักษาโรคพาร์กินสัน หรือยาปฏิชีวนะบางชนิด ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทาน
สรุป พลังงานชีวิตที่ Vitamin B Complex มอบให้คุณ พร้อมโอกาสสร้างแบรนด์แห่งอนาคต
ตลอดเนื้อหานี้ เราได้เจาะลึกถึงคำถามที่ว่าวิตามินบีรวมช่วยเรื่องอะไ และได้ข้อสรุปว่า วิตามินบีรวมคือกุญแจสำคัญที่ขับเคลื่อนระบบพลังงานของร่างกายและบำรุงระบบประสาทให้แข็งแรง การได้รับ Vitamin B Complex อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นรากฐานของการมีสุขภาพกายและใจที่ดีในระยะยาว
สำหรับผู้ประกอบการและนักธุรกิจที่มองเห็นถึงความสำคัญของสุขภาพ และกำลังมองหาโอกาสในการขยายตลาดหรือเริ่มต้นธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารเสริมที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง การผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบหลักอย่างวิตามินบีรวมถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เพราะผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการเสริมสร้างพลังงานและลดความเครียดเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง
หากคุณเป็นเจ้าของแบรนด์ที่ต้องการขยับขยาย เพิ่ม Product Line ที่มีคุณภาพสูง หรือเป็นนักธุรกิจหน้าใหม่ที่มีความสนใจแต่ยังขาดประสบการณ์ในการผลิตและพัฒนาสูตรอาหารเสริม สามารถปรึกษาบริษัท เดอร์มา อินโนเวชั่น จำกัด ได้เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสูตรและรับผลิตอาหารเสริมบำรุงสมองที่ได้มาตรฐานระดับสากล พร้อมให้คำแนะนำอย่างครบวงจรตั้งแต่การวิจัย การออกแบบบรรจุภัณฑ์ จนถึงการตลาด เพื่อให้คุณสามารถสร้างแบรนด์วิตามินบีรวม หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่น ๆ ที่เป๊ะ มีคุณภาพและประสบความสำเร็จในตลาดได้อย่างยั่งยืน
- บริษัท เดอร์มา อินโนเวชั่น จำกัด
- 111/1 หมู่ 4 ซ.แจ้งวัฒนะ 19 ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120
- วัน-เวลาเปิดทำการ : จ.-ศ. 09:00-18:00 น. (หยุดวันเสาร์-อาทิตย์)
- โทร : 02 962 3223, 02 962 2177, 02 962 2442
- Hotline : 095-982-9444
- E-mail : Sales@derma-innovation.com
- ติดต่อฝ่ายจัดซื้อ 02-046-6223