รินไวน์แดงใส่แก้ว

Resveratrol คือ? ยาอายุวัฒนะที่ซ่อนอยู่ไวน์แดง พร้อมประโยชน์มหาศาลที่คาดไม่ถึง!

เปิดเผยความลับของ Resveratrol สารมหัศจรรย์จากไวน์แดงที่หลายคนเรียกมันว่า ‘ยาอายุวัฒนะ’ สารนี้ไม่ได้แค่ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ แต่ยังสามารถปรับสมดุลร่างกาย ลดการเสื่อมของเซลล์ และป้องกันโรคเรื้อรังอย่างมะเร็งและโรคหัวใจได้ จริงหรือหลอก? มาไขข้อข้องใจไปพร้อมกันในบทความนี้ รับรองว่าจะได้รู้จัก ‘Resveratrol’ กับประโยชน์ที่ไม่เพียงแต่ช่วยชะลอวัย แต่ยังดูแลสุขภาพได้ในระยะยาวอย่างคาดไม่ถึง!

ไวน์แดง และองุ่น

รู้จัก Resveratrol คืออะไร?

เรสเวอราทรอล (Resveratrol) เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสารประกอบที่เรียกว่าโพลีฟีนอล ที่พบตามธรรมชาติในถั่วลิสง องุ่น ไวน์แดง และผลเบอร์รี่บางชนิด  ซึ่งเชื่อกันว่าสารเหล่านี้ทำหน้าที่เหมือนสารต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องร่างกายจากความเสียหายที่อาจทำให้คุณมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ เช่นมะเร็งและโรคหัวใจ

Resveratrol ช่วยอะไร?

  • ชะลอวัย:  Resveratrol ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์เซอร์ทูอิน (Sirtuin) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการชะลอกระบวนการวัยชรา
  • ป้องกันการเจริญเติบโตและการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง: Resveratrol สามารถยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งและกระตุ้นให้เกิดอะพอพโทซิสได้ (Apoptosis คือ กระบวนการกำจัดเซลล์ที่ไม่จำเป็นออกไป)
  • การต้านการอักเสบ:  Resveratrol ช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบหลายตัว เช่น ไซโคลออกซิเจเนส (COX) และไลโปออกซิเจเนส (LOX) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการอักเสบ
  • ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ: Resveratrol กำจัดอนุมูลอิสระและสารออกซิแดนท์ อื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ป้องกันโรคหลอดเลือดแข็งตัว (อาเทอโรสเคลโรซิส) ผ่านหลายกลไก:
    • ป้องกันการออกซิเดชันของคอเลสเตอรอล LDL
    • ยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือดและการสร้างลิ่มเลือด
    • ยับยั้งโมเลกุลการยึดเกาะของเซลล์ที่จำเป็นต่อการสะสมของคราบพลัคในหลอดเลือด
    • ยับยั้งการขยายตัวของเซลล์กล้ามเนื้อเรียบที่ช่วยในการพัฒนาอาเทอโรสเคลโรซิส
    • กระตุ้นการทำงานของ eNOS ซึ่งผลิตไนตริกออกไซด์ (สารที่ช่วยขยายหลอดเลือด) ช่วยลดความดันโลหิตสูง
  • ลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์: Resveratrol ช่วยลดการสะสมของโปรตีนเบต้าอะไมลอยด์ ซึ่งเป็นสารประกอบหลักที่ก่อให้เกิดคราบพลัคในสมองของผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ การสะสมของคราบพลัคเหล่านี้จะทำลายเซลล์ประสาทและส่งผลต่อความจำและการเรียนรู้ การศึกษาหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าเรสเวอราทรอลอาจช่วยยับยั้งการก่อตัวของคราบพลัค ชะลอการเสื่อมของเซลล์ประสาท และลดการอักเสบในสมอง

Resveratrol พบได้ที่ไหน?

ผลเบอร์รี่รวม

Resveratrol พบได้ในพืชมากกว่า 70 ชนิด แต่ส่วนใหญ่พบมากในในเปลือกองุ่นแดง ถั่วลิสง และพิสตาชิโอ รวมถึงในผลเบอร์รี่ เช่น บลูเบอร์รี่และแครนเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ และมัลเบอร์รี่ รวมถึงเมล็ดโกโก้ สาร Resveratrol ยังพบในปริมาณมากในไวน์แดง โดยเฉพาะไวน์แดงที่ผลิตจากองุ่นแดงพันธุ์มาลเบกหรือมัสกาดีน ซึ่งมีเปลือกหนา จะมีปริมาณ Resveratrol สูงกว่าพันธุ์อื่น นอกจากนี้ องุ่นที่ปลูกในภูมิภาคที่มีอากาศเย็นกว่า ก็มักจะมีปริมาณ Resveratrol มากกว่าองุ่นที่ปลูกในที่อากาศอบอุ่นด้วย 

การดื่มไวน์แดงมากขึ้น จะทำให้สุขภาพดีขึ้นจริงหรือไม่?

ในเมื่อ Resveratrol มาจากไวน์แดงเป็นหลัก บางคนจึงสงสัยว่างั้นยิ่งดื่มเยอะยิ่งได้ประโยชน์ใช่หรือไม่? ผู้เชี่ยวชาญและองค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมหัวใจแห่งอเมริกา (American Heart Association) ยังคงแนะนำให้จำกัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้ที่วันละหนึ่งแก้วสำหรับผู้หญิง และสองแก้วสำหรับผู้ชาย (โดยที่ไวน์ หรือแม้แต่การบริโภคแหล่งอาหารหลักอย่างถั่วลิสง และพิสตาชิโอ รวมถึงในผลเบอร์รี่ ก็ให้ Resveratrol ในปริมาณที่ค่อนข้างต่ำ เนื่องจากมนุษย์จะดูดซึม Resveratrol ได้ดี แต่การดูดซึมทางชีวภาพค่อนข้างต่ำ เพราะจะถูกเผาผลาญและขับออกอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้น หากต้องการได้รับในปริมาณสูง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Resveratrol จะให้ประโยชน์ที่ตรงความต้องการได้มากกว่า

ความปลอดภัยของ Resveratrol ปริมาณที่ควรได้รับคือเท่าไหร่?

Resveratrol มีความเป็นพิษค่อนข้างต่ำ โดยสามารถบริโภคได้ถึง 5 กรัมต่อวัน ซึ่งผลิตภัณฑ์อาหารเสริม Resveratrol มักจะมีปริมาณต่ำกว่าการใช้ในงานวิจัย ซึ่งมักจะอยู่ในช่วง 250-500 มิลลิกรัมต่อเม็ดหรือแคปซูล ปริมาณนี้ถือว่าอยู่ในช่วงที่ปลอดภัยสำหรับการใช้งานทั่วไป โดยปกติแล้วสามารถรับประทานได้โดยไม่มีอันตรายหากทานตามคำแนะนำ แต่ปริมาณที่สูงเกินไป (มากกว่า 5 กรัมต่อวัน) อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ ท้องเสีย หรือปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหารได้

ใครที่ควรเลี่ยง Resveratrol 

1. ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ: เนื่องจาก Resveratrol อาจชะลอการแข็งตัวของเลือดและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเลือดออก

2. ผู้ที่มีโรคที่ไวต่อฮอร์โมน: เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก มะเร็งรังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือเนื้องอกในมดลูก เนื่องจาก Resveratrol อาจมีฤทธิ์คล้ายเอสโตรเจน ซึ่งอาจกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน

3. คนที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด: ควรหยุดการทาน Resveratrol อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด เนื่องจากมันอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเลือดออกระหว่างหรือหลังการผ่าตัด

4. ผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือยาต้านเกล็ดเลือด: เช่น วาร์ฟาริน โคลพิโดเกรล และยาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจาก Resveratrol อาจทำให้ยามีผลข้างเคียงเพิ่มขึ้น

5. ผู้แพ้องุ่น: เนื่องจาก Resveratrol มักสกัดจากองุ่น หากคุณมีอาการแพ้องุ่น เช่น ผื่นคัน หรืออาการแพ้อื่น ๆ การทานอาหารเสริมที่ Resveratrol อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้

6. ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร: เนื่องจากยังมีข้อมูลวิจัยไม่เพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทาน Resveratrol ในช่วงตั้งครรภ์และให้นมบุตร 

เทรนด์ของตลาด Resveratrol มาแรง! 

มือถืออาหารเสริม resveratrol

เทรนด์ของตลาด Resveratrol กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วเนื่องจากความนิยมของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและการชะลอวัย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในวงการอาหารเสริมในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ที่มี Resveratrol ได้รับการยอมรับในวงกว้าง ไม่เพียงแค่สำหรับการช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์และการต่อต้านอนุมูลอิสระ แต่ยังได้รับการมองว่าเป็นทางเลือกในการรักษาสุขภาพที่มีประสิทธิภาพในระยะยาว โดยเฉพาะในด้านการดูแลผิวพรรณและการป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับความชราภาพ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน

ยกตัวอย่างแบรนด์ระดับโลกอย่าง Reserveage จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเน้นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ โดยเฉพาะสารสกัดจาก Resveratrol จากองุ่น เพื่อเสริมสร้างสุขภาพและชะลอวัย และยังมี Prolongevity Resveratrol Blend สารสกัดพิเศษที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ ซึ่งประกอบด้วยส่วนผสมจาก Japanese Knotweed (พืชที่มี Resveratrol สูง) และ French Red Wine Grapes (องุ่นไวน์แดงฝรั่งเศส) ด้วยคุณสมบัติของสารสกัดจากสองแหล่งนี้ ทำให้แบรนด์ชูจุดเด่นได้อย่างตรงจุด จนแบรนด์นี้ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ ทั้งในสหรัฐฯ และหลายประเทศทั่วโลก

Resveratrol ครองใจผู้รักสุขภาพ ชูจุดเด่นให้ปัง แล้วเริ่มเลยที่ Derma 

การเลือกใช้ Resveratrol ที่เพาะปลูกอย่างพิถีพิถัน โดยไม่ใช้สารเคมีในการปลูก ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้แบรนด์สามารถสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ใส่ใจในสุขภาพผิวและความงามอย่างแท้จริง แบรนด์ที่นำเสนอสารนี้ได้เข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ไม่เพียงแค่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ แต่ยังต้องการความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดจากการใช้อย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและชัดเจนในเรื่องการฟื้นฟูผิวและการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร เลือก Derma Innovation สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ผสมผสาน Resveratrol เข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัยในวงการสกินแคร์ ไปถึงการเลือกสารสกัดพิเศษในตลาดของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเลย

source: news-medical.net, oregonstate.edu